รีวิวหนัง SE7EN
SE7EN หรือ (Seven) เป็นหนังแนวอาชญากรรม ลึกลับซ่อนเงื่อน ที่ได้ถูกฉายในปี 1995 ตั้งแต่นั้นมาหนังเรื่อง SE7EN ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนังแนวอาชญากรรม ที่มีเนื้อเรื่องหักมุมติดอันดับท็อปตลอดกาล ด้วยเนื้อหาที่เป็นแนวลึกลับ สืบสวนสอบสวน น่าค้นหา และน่าติดตามเป็นอย่างมาก และที่สำคัญตอนจบของหนังเรื่องสามารถทำให้ผู้ชมอึ้งเป็นอย่างแน่นอน
สุดยอดหนังสืบสวนสุดละเมียดละไม กับการฆาตกรรมบาป 7 ประการสุดโหด กับการไขคดีสยองสุดขั้ว ที่ทำให้คุณต้องช็อคกับบทสรุปของมัน
หนังประสบความสำเร็จทั้งในด้านเสียงวิจารณ์และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม ขึ้นแท่นหนังคลาสสิกที่สมควรหยิบมาดูได้บ่อยครั้ง หนังใช้ทุนสร้างไปจุ๋มจิ๋มเพียงแค่ 33 ล้าน แต่ทำรายได้ทั่วโลกไปมากมายถึง 327 ล้านเหรียญ ด้านคุณภาพของหนังนั้น นับว่าเป็นหนังที่กู้ชื่อเสียงของเดวิด ฟินเชอร์ ได้อย่างสวยงาม หลังจากประเดิมผลงานกำกับใน Alien 3 (1992) เป็นหนังที่ต้องรับแรงกดดันสูง เพราะสานต่องานกำกับต่อจากผู้กำกับระดับตำนานทั้งสิ้น Alien 1 กำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์ และ Aliens 2 กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน พอมาถึงเดวิด ฟินเชอร์ ผู้ชมก็ไม่พอใจกับผลงานที่ออกมา เดวิด โดนด่าเละเทะ ต้องกลับสู่งานผู้กำกับโฆษณาและมิวสิกวิดีโออย่างเคยอีก 3 ปี กว่าจะลบเลียแผลใจแล้วกลับมาผงาดอย่างงดงามกับ se7en แล้วตั้งแต่นั้น บรรยากาศอึมครึมในหนังสืบสวนลึกลับ ก็กลายเป็นลายเซ็นที่่โดดเด่นของเดวิด ฟินเชอร์ ที่ผู้ชมโหยหาตลอดม
รีวิวหนัง SE7EN เรื่องย่อ
โซเมอร์เซต ตำรวจวัยใกล้เกษียณ กับ มิลล์ นักสืบหนุ่ม ที่ได้จับมือกันเป็นคู่หู เพื่อมาร่วมสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่ศพแรกเป็นชายร่างอ้วนถูกฆาตกรรมอย่างอำมหิต พร้อมทั้งเบาะแสต่างๆ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ และไม่นานนักก็พบกับเชื่อมโยงของการฆาตกรรมสุดวิปริตในครั้งนี้ว่ามันเป็นการฆ่าคนตามบาปทั้ง 7 ประการของศาสนาคริสต์นั่นเอง พวกเขาจึงต้องเดินตามรอยที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ แต่เมื่อยิ่งเข้าไปก็ยิ่งพบกับอันตรายที่มากขึ้นกับพวกเขาเองและคนใกล้ตัวด้วย
สำหรับเรื่องย่อของหนังหักมุมเรื่อง SE7EN นั้นมีอยู่ว่า โซเมอร์เซตต์ ตำรวจวัยใกล้เกษียณได้รับภารกิจ คดีชายอ้วนร่างใหญ่ตายอย่างปริศนาภายในบ้านของตนเอง ซึ่งทำให้ตำรวจวัยเกษียณได้พบกับ มิลล์ นักสืบหนุ่ม ที่อยู่ในที่เกิดเหตุก่อนแล้ว หลังจากการตรวจสอบ ทั้งคู่ก็ได้พบว่า ศพของชายอ้วนผู้นี้ ได้ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย และพวกเขายังพบร่องรอยต่าง ๆ ที่คนร้ายได้จงใจทิ้งไว้อีกด้วย ทั้งคู่เริ่มสืบคดีนี้ แต่เมื่อพวกเขาได้รู้เรื่องราวมากเท่าไหร่ เขากับพบความจริงที่แสนหดหู่ใจมากเท่านั้น
บอกได้เลยว่าเป็นหนังหักมุมเรื่อง SE7EN แนวอาชญากรรมที่มีเนื้อหาเรื่องราวสุดเข้มข้น และดาร์คได้อย่างขีดสุด โดยที่ตัวเรื่องของหนัง SE7EN ได้ผูกเรื่องราวด้วยความเชื่อทางศาสนาอย่าง บาปทั้ง 7 กับคดีอาชญากรรมต่าง ๆ ที่ตัวหนังนั้น สามารถทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม มีความสมเหตุสมผล
และมีการบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างลงตัว อีกทั้งในฉากต่าง ๆ ของหนังยังทำออกมาได้หดหู่ และน่ากลัวสมชื่อหนังอาชญากรรมเป็นอย่างมาก อย่างฉากศพต่าง ๆ ที่ตำรวจและนักสืบทั้ง 2 ได้พบเจอนั้น ก็มีความสยดสยอง น่ากลัว สมจริงถึงขีดสุด แม้ว่าจะถ่ายทำในช่วงยุค 90 ก็ตาม
ถึงแม้หนังเรื่อง SE7EN จะปล่อยฉายมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้สามารถทำเนื้อหาออกมาได้อย่างดี สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ในทุกยุคทุกสมัย และทีสำคัญภาพของหนัง ยังคงคุณภาพได้อย่างดี
ที่ไม่ว่าจะเป็นฉากในซีนต่าง ๆ นั้นดูทันสมัย ที่ถึงแม้จะรับชมในตอนนี้ หรืออีกกี่ปีข้างหน้า มุมกล้อง หรือฉากต่าง ๆ ของหนังก็ยังคงความลึกลับ น่าค้นหา และความน่าติดตามได้ในทุกฉากทุกตอน อีกทั้งการหักมุมของหนังที่ทำให้เป็นที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งหนังหักมุมอมตะ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งกับหนังเรื่อง SE7EN นั่นเอง
สิ่งแรกที่ชอบเลยคือการเอาบาป 7 ประการมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการฆ่า คือมันดูมีสตอรี่ มีเรื่องราว รวมถึงแต่ละวิธีการที่ใช้ฆ่านี่มันโหดได้ใจมากๆ คือเหมือนดู Saw เวอร์ชั่นไม่เห็นกรมวิธีการฆ่า แต่เห็นแนวทางที่ใช้อ่ะ ขนลุกสุดเป็นการฆ่าที่โหดแต่โคตรจะครีเอทีฟ
สิ่งที่สองที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือตอนจบ ถึงแม้จะมีคนบอกว่าพอเดาได้ แต่เอาจริงเราไม่เห็นเดาได้แบบนั้นเลย555555 คือมันอึ้ง มันทึ่ง มันพีคมาก ไม่คิดว่าไอเจ้า ‘บาป 7 ประการ’ มันจะเอามาเล่นแลบนี้ได้ด้วย สตั้นไปสิบวิ ใครไม่เคยดูก็ต้องลองไปหาดู หลบสปอยกันให้ดีๆ ล่ะ
ในเรื่องของบท เราว่ามันก็โอเคตามแบบฉบับหนังสืบสวนทั่วไปแหละ ตื่นเต้นตลอดเรื่อง แทบไม่มีช่วงเนือยเลย ถือว่าเป็นอีกหนังที่สนุก คนดูเอ็นจอยไปกับมันไม่ยาก
บทเเละการดำเนินเรื่องที่ดี ดนตรีประกอบที่เข้ากับฉาก การเเสดงที่มาก การสะท้อนให้เห็นถึงกฏเเห่งกรรม
นักแสดงนำทั้งสองก็คือดีงาม ตัวพ่ออย่างแบรด์ พิตต์และ มอร์แกน ฟรีแมน แสดงออกมาได้ดีงามตามท้องเรื่อง โดยเฉพาะซีนอารมณ์ซีนสุดท้าย ชอบแบรดด์มากๆ คือดูแล้วอิน รู้สึกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ชอบ
สรุปว่า ใครที่อยากดูหนังสอบสวนพีคๆ ซักเรื่อง se7en ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง หนังสองชั่วโมงผ่านไปไวมากๆ มันสนุกและลุ้นไปกับตัวหนังเสมอเลย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
กลายเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างค่ายกับทีมงานมากๆ ในส่วนของกล่องปริศนาภายในเรื่อง ที่ทางค่ายและผู้บริหารเองไม่อยากให้มีฉากของกล่องนั้นเข้ามาในเรื่อง เพราะมันจะสร้างความอึดอัดกระอักอ่วนเกินไปให้กับคนดู ในขณะที่ดาราอย่าง Brad Pitt เองกับยืนยันว่าหนังจะต้องจบแบบนี้เท่านั้น ไม่งั้นเขาก็ไม่เล่น ซึ่งก็นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะมันทำให้เป็นฉากจำสุดคลาสสิคของเรื่องเลย
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
รีวิวหนัง SE7EN นทำให้ใครที่ชอบหนังสืบสวน แต่รับความโหดไม่ได้ อาจจะต้องมองข้ามไป แต่ถ้าใครที่ชอบในความโหดดิบ เข้มข้น รับกับความรุนแรงเหล่านี้ได้ Se7en ก็จะเป็นหนังสืบสวนอีกเรื่องที่โยนเบาะแสให้กับคนดูตามไปพร้อมๆ กับตัวละครตำรวจคู่หูได้อยากสนุก ชวนติดตาม พร้อมกับรายละเอียดชั้นเยี่ยม เหมือนหนังอย่าง Zodiac ของผู้กำกับที่ใหม่กว่า แต่ถ้าใครอยากได้งานสืบระดับ Masterpiece แล้วก็ต้องเป็น Se7en จริงๆ
สายหนังสืบสวนสอบสวน
สายหนังฆาตกรรมสุดโหด
สายหนังสืบสวนยุค 90s
รีวิว / สรุปเนื้อหา
สุดยอดผลงานกู้ชื่อของผู้กำกับอย่าง David Fincher ที่หลังจากประเดิมผลงาน Alien 3 ออกมาอย่างผิดพลาดด้วยปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความกดดัน จนกลายเป็นตราบาปที่สุดในชีวิตผู้กำกับของเขา ซึ่งสำหรับ Se7en นี้จึงเป็นโอกาสที่จะสร้างชื่อของเขาอีกครั้งกับหนังสืบสวนสอบสวนสุดดาร์คระดับขึ้นหิ้ง ที่กลายเป็นลายเซ็นที่ชัดเจนของเขาในการทำหนังประเภทนี้ไปแล้ว ซึ่งตัวหนังเองก็จัดเต็มในระดับ Rate R จนเรียกได้ว่าใช้เรทได้อย่างคุ้มค่ามากๆ กับบรรดาฉากเหยื่อแต่ละรายของฆาตกรฆ่าตามบาปคนนี้ ที่ต้องอยู่ในสภาพสุดอเนจอนาถจากการฆ่าในแบบสุดโหดอำมหิต
รีวิวหนัง SE7EN องนักสืบที่มีประสบการณ์ และเข้าใจเบาะแสต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตัวมิลล์เองก็มักใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตามสไตล์วัยรุ่นใจร้อน แต่ด้วยความทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันก็คือการตามล่าฆาตกรคนนี้ก่อนที่จะมีศพต่อๆ ไป ซึ่งตัวหนังก็โหดแบบโหดจัดมากๆ แม้เราจะไม่ได้เห็นกระบวนการฆ่าในเรื่องเลย แต่สภาพศพก็เป็นตัวบอกความรุนแรงอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งฉากจำในช่วงใกล้จบนั้น เราก็ไม่ได้เห็นอะไรมากนัก แต่กลับจินตนาการไปถึงภาพความสยดสยองได้เป็นอย่างดี เรียกว่าหนังทำงานได้ดีในการสร้างจินตนาการให้คนดูผ่านทางฉากและการแสดงของดารามากๆ
ในแง่ของการดำเนินเรื่องก็เป็นสไตล์สืบสวนแท้ๆ ที่เรียกร้องความสนใจ และความตั้งใจดูของคนดูอยู่มากๆ ในทุกๆ บทสนทนาและเบาะแสต่างๆ ก็ช่วยทำให้คนดูเดาเรื่องราวได้สนุกขึ้น ประกอบกับการเอาเรื่องราวของบาป 7 ประการมาใช้อย่างชาญฉลาด ทำให้คนที่เคยรู้จักเรื่องราวเหล่านี้ ก็จะสามารถเชื่อมโยงไปกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และชอบในไอเดียแต่ละศพซะเหลือเกิน ซึ่งในแง่รายละเอียดต่างๆ ของหนังก็ทำมาได้ดี จนเรียกได้ว่าเป็นงานสืบสวนแบบปราณีต ละเมียดละไมบนความโหดดิบเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่ตอนจบของหนังที่น่าทึ่งและน่าจดจำฝังใจให้กับหลายๆ คนที่ดูจบได้เลย