รีวิว สิงสู่ 2018
ภาพยนตร์เรื่อง สิงสู่ เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ ผลงานการกำกับของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราว ณ สำนักแห่งหนึ่งในที่ไกลผู้คน ได้มีการทำพิธีเรียกวิญญาณเข้าร่างปริศนาร่างหนึ่ง แต่กลับมีวิญญาณแปลกหน้าหลุดเข้ามาด้วยแล้วเหมือนว่ามันจะสามารถสิงร่างใครเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกคนในสำนักจึงต้องหาวิธีป้องกันจากวิญญาณแปลกหน้าพวกนี้และเอาชีวิตรอดให้ได้
สิงสู่ เล่าถึงสำนักจิตแห่งหนึ่งบนเขาที่ห่างไกลผู้คน วันหนึ่งนายแม่เจ้าของสำนักได้เชิญลูกศิษย์ทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อทำพิธีเรียกวิญญาณกลับมายังศพปริศนาที่ถูกห่อผ้าไว้ แต่ระหว่างนั้นเกิดการผิดพลาดขึ้น ทำให้วิญญาณเร่ร่อนแถวนั้นได้เข้ามาในสำนัก และเข้าสิงร่างของนายแม่
เวลาผ่านไป นายแม่ถูกกักขังไว้ในห้อง พร้อมกับที่ เดช ศิษย์เอกของนายแม่ได้กลับมาที่สำนักพร้อมข่าวร้ายว่า ข้างนอกฝนตกหนัก น้ำเซาะถนนพัง ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้สักพักใหญ่ เมื่อข้างในก็มีผีร้าย ข้างนอกก็ออกไปไม่ได้ ทุกคนจึงเหมือนถูกปิดตายอยู่ในสำนัก ร่วมกับวิญญาณร้ายที่ไม่รู้ว่าจะเข้าสิงใครต่อไป..
รีวิว สิงสู่ 2018 เรื่องย่อ
ณ สำนักบนเขาที่โดดเดี่ยวห่างไกล ในวันที่บรรยากาศอึมครึมและฝนตกหนัก คนชุดดำ 6 คนมารวมตัวกันนำโดยนายแม่ หญิงชราผมขาวหน้าตาน่าเกรงขาม ทำพิธีกรรมปริศนาบางอย่าง โดยมีศพลึกลับเป็นเป้าหมาย แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าพิธีกรรมนั้นได้ไปปลุกวิญญาณแปลกหน้าที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาในบ้าน และหลังจากนั้นความสยองขวัญสุดขีดก็เริ่มต้นขึ้น ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ามันจะสิงใคร เมื่อไหร่ ด้วยวิธีใด และมันไม่ได้จะเข้าสิงเพื่อทำให้กลัวเท่านั้น แต่สิ่งที่มันต้องการที่สุดแล้วคือ การฝังราก..ยึดวิญญาณ ของใครสักคนในที่นี้
หนังฝีมือจากผู้กำกับชั้นแนวหน้าของไทยอย่าง วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่กลับมาอีกครั้งในแนวหนังผีที่ดูจะสนุกมือเป็นพิเศษ เพราะนับจาก เปนชู้กับผี หนังผีย้อนยุคไทยสไตล์ที่สร้างความหลอนพลิกความคาดหมายจนลือลั่นไปแล้ว ก็ยังมีผลงานอย่าง รุ่นพี่ หนังผีที่หันมาผสมแนววัยรุ่นผสมการสืบสวนได้แปลกใหม่ แม้จะยังไม่ค่อยลงตัวมากนักก็ตาม มาปีนี้วิศิษฏ์หันกลับมาเล่นแนวผีแบบหนัก ๆ ผู้ใหญ่ ๆ อีกครั้งซึ่งยังได้รวมดาราชั้นนำมาประชันฝีมือแบบห้ำหั่นจริง ๆ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ อย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และโดยที่ต้องจับตามมองคือการกลับมาของ ทาริกา ธิดาทิตย์ และการโชว์ฝีมือของรุ่นเล็กของบ้านอย่าง พลอย ศรนรินทร์ ซึ่งฝีมือจัดจ้านขึ้นเป็นลำดับ
หนังเปิดอย่างรวดเร็วสู่พิธีกรรมปลุกวิญญาณโดยแทบไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ กับคนดู ก่อนจะสิ้นสุดฉากนี้ด้วยความผิดพลาดและแล้ววิญญาณร้ายที่ไม่ได้รับเชิญก็บุกรุกข่มขวัญกลุ่มผู้ร่วมพิธีราวกับเกาะร้างปิดตายกลางทะเลในหนังฆาตกรรมสยองขวัญ ซึ่งเหล่าตัวเอกต่างต้องทำบทนักสืบและสงสัยกันเอง ว่าใครจะตกเป็นร่างสิงสู่ของวิญญาณร้าย และวิญญาณร้ายคือใคร แท้จริงต้องการอะไร ยิ่งรวมถึงปริศนาของพิธีกรรมนี้ว่าแท้จริงจัดขึ้นเพื่อการใดกันแน่ นี่คือลูกเล่นที่หนังใช้ผสมหนังหลากหลายแนวจนกลายเป็นหนังผีที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครขึ้นได้
และจุดอ่อนใหญ่ของหนังก็ไม่อาจปกปิดตัวเองได้ดีเหมือนเช่นปริศนาของมันเลย เพราะเราเห็นความจำกัดจำเขี่ยในเรื่องทุนทรัพย์อย่างออกนอกหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมกอัปแต่งหน้าเวลาถูกสิงที่เหมือนลงพื้นหนัก ๆ ป้ายขอบตาดำ แล้วใส่คอนแท็กเลนส์แฟนซี เอาเท่านั้น หรือเทคนิคพิเศษที่แทบจะไม่ได้มีให้เห็น ซึ่งพอประกอบกับการแสดงในบางฉากที่ดั่งอยู่บนเวทีละคอนแล้วนั้น ท่าทางประหลาด ๆ เมกอัปหน้าขาว ๆ คำพูดเว่อ ๆ ไม่ธรรมชาติ มันจึงชวนให้เหมือนหนังคัลท์ทุนต่ำที่ทำให้ตลกอย่างไม่ตั้งใจ แต่หนังก็เอาตัวรอดไปได้ด้วยเสียงของดนตรีที่ข่มขวัญเราได้ดีอย่างกับหนังยุโรปชั้นดี และพลังของนักแสดงที่ทำให้เราไม่อาจเบือนหน้ามองได้เลย
“สิงสู่” บอกเล่าเรื่องราวของสำนักบนภูเขาอันโดดเดี่ยวห่างไกลจากชุมชน ในวันที่สภาพอากาศเลวร้ายไม่เป็นใจ คนชุดดำทั้ง 5 คนเดินทางมารวมตัวกัน นำโดยนายแม่ หญิงชราผมขาวหน้าตาน่าเกรงขาม ทำพิธีกรรมปริศนาบางอย่าง โดยมีศพลึกลับเป็นเป้าหมาย แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าพิธีกรรมนั้นได้ไปปลุกวิญญาณแปลกหน้าที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาในบ้าน แต่นั่นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของความระทึกขวัญสุดสยอง เมื่อทุกคนในสำนักแห่งนี้ ต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณร้าย ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลยว่า มันจะเริ่มต้นไป “สิง” ใครเป็นรายต่อไป และเป้าหมายที่สำคัญของวิญญาณตนนี้คือการ “ฝังรากและยึดวิญญาณ”
จากความตั้งใจของผู้กำกับ เขาได้พบว่ายังไม่มีนักทำหนังไทยคนไหนหยิบเอาประเด็น “ผีสิง” มาเล่นเป็นแกนหลักของเรื่อง เนื่องจากในระยะหลังเขาเห็นศิลปินหลายคนเริ่มสนใจงานทางด้านนี้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ คาเงะ- ธีระวัฒน์ มุลวิไล ศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธรประจำปี 2561 สาขาศิลปะการแสดง ซึ่งเคยเคยแสดงละครเวทีที่ว่าด้วยวิญญาณร่างผู้อื่น ได้แก่ ปรารถนา: ภาพเหมือนการเข้าสิงนักเขียนของ อุทิศ เหมะมูล เมื่อทั้งคู่ได้พูดคุยกันแล้วพบว่าสนใจในสิ่งเดียวกัน พวกเขาจึงร่วมกันพัฒนาหนังเรื่องนี้ขึ้นมาจนเป็นรูปเป็นร่าง
นักแสดง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นทาริกา ธิดาทิตย์ มารับบทเป็น นายแม่ เจ้าสำนักที่ทำการปลุกวิญญาณ เธอเป็นคนที่ผู้อื่นต่างพากันเกรงขาม คนต่อมาคืออนันดา เอเวอริงแฮม มารับบทเป็น เดช ชายหนุ่มทายาทเพียงหนึ่งเดียวของนายแม่ คนต่อมาคือณัฐฐาวีรนุช ทองมี รับบทเป็น ปราง แฟนสาวของเดช
คนต่อมาคือธีระวัฒน์ มุลวิไล รับบทเป็น กฤษ ลูกศิษย์ที่หมกมุ่นในเรื่องไสยศาสตร์ คนต่อมาคือพีรพล กิจรื่นภิรมย์สุข มารับบท นพ คนในสำนักที่เข้ามาด้วยผลประโยชน์บางอย่าง คนต่อมาคือ จารุนันท์ พันธชาติ รับบทเป็น เครือ แม่บ้านผู้ซื่อสัตย์ประจำสำนัก และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือพลอย ศรนรินทร์ มารับบทเป็น สร้อย เด็กสาวกำพร้าที่เครือรับมาดูแล โดยภาพยนตร์เรื่อง สิงสู่ เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2562
อย่างไรก็ตาม ทีมนักแสดงทั้งหมด อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, ทาริกา ธิดาทิต, น้อง พลอย ศรนรินทร์ และคนอื่นๆ ได้โชว์การแสดงและให้ฉากอารมณ์ที่พอจะช่วยประคับประคองตัวหนังหรือแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ เพราะวิญญาณผีสิงในหนังไม่มีความน่ากลัวออกไปในทางตลกด้วยซ้ำ ดูหนังออนไลน์ การถูกวิญญาณเข้าสิงแบบ The Exorcist ไม่มีความหลอนแต่อย่างใด
เพราะใช้รูปแบบเดิมๆอย่างพร่ำเพรื่อ ซาวด์ประกอบใส่มาเยอะจนน่ารำคาญ อย่างไรเสีย การสิงสู่ร่างมนุษย์ของเหล่าวิญญาณ ก็พอจะมีประเด็นอะไรให้ขบคิดและครุ่นคิดว่าตัวผู้กำกับต้องการสื่อสารอะไรกับคนดู ประเด็นของความทรงจำที่ยังวนเวียนอยู่ในความคิดของคนเป็น หรือการสอดแทรกสัญลักษณ์รากต้นไม้ที่ฝั่งรากลึกและค่อยๆบ่มเพาะเติบโตขึ้น แง่มุมหนึ่ง หนังชวนให้ตีความถึงระบบสังคมที่ไม่ชวนหลุดพ้นต่ออำนาจ(เผด็จการ)มืดบางอย่างที่มองไม่เห็น ที่คอยกลืนกินเข้าสิงสังคมจนถอนตัวไม่ขึ้น
รีวิวภาพยนตร์เรื่อง สิงสู่ รีวิวหนัง รีวิวหนังไทย รีวิวหนังผี Netflix สิงสู่
จากที่ได้ดูมา เห็นได้ชัดว่าสิงสู่เป็นหนังทุนต่ำ ถ่ายทำในโลเคชั่นเดียวเกือบทั้งเรื่อง ทุกสิ่งในหนังคือมาจากก้อนความคิดของผู้กำกับ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาทางการแสดงของนักแสดงล้วนๆ แทบไม่มีการปรุงแต่งใดๆ แต่บางทีก็รู้สึกว่าตัวละครเล่นไม่ธรรมชาติในหลายๆ ฉาก เล่นใหญ่เล่นเกิน บทพูดก็ดูเป็นบทมากๆ หรือแม้แต่ท่ายืนท่าเดินบางทียังดูตั้งใจเกินไปด้วยซ้ำ เหมือนหนังเรื่องนี้เหมาะจะเอาไปทำละครเวทีมากกว่า และน่าจะออกมาเป็นละครเวทีที่ดีมากๆ ด้วยซ้ำไป
ด้านความสยองขอบอกตามตรงว่ายังไม่สุด ผีเข้าสิงคนนั้น ย้ายไปคนนี้ ชุลมุนวุ่นวายมาก แต่ด้วยเพราะการแสดงที่ดูขัดใจ เมคอัพหน้าผีที่ดูปลอม ดูหลอก แค่ทาหน้าขาวใส่คอนแท็กเลนส์ขาวก็เป็นผีแล้ว เลยทำให้สะดุดใจก่อนถึงจุดที่จะกลัว (ถึงแม้ว่าทุกตัวละครจะเล่นบทผีเข้าได้ทุ่มเทแบบไม่ห่วงสวยหล่อก็ตาม) ด้านซาวด์ประกอบ เสียงผีดูตลก อารมณ์เหมือนกอลลั่ม หรือตามหนังผีฝรั่ง ส่วนเพลงประกอบดูเข้ากับหนังดี เหมือนจะเป็นซาวด์หนังย้อนยุค คลาสสิค แต่บางทีก็ใช้ดังและเยอะไปหน่อยจนเมื่อยหู
เนื้อเรื่องคือส่วนที่ดูจะมีอะไรที่สุดในหนัง เพราะมันซ่อนอะไรๆ ให้เราอยากรู้ไว้เยอะพอสมควร อย่างเช่นพิธีกรรมในตอนต้นเรื่องทำเพื่ออะไร? ศพในห่อผ้าเป็นใคร? วิญญาณเร่ร่อนมาจากไหน? ความลับในอดีตของแต่ละคนในสำนักมีอะไรบ้าง? ก่อนจะพาไปเฉลยในตอนจบได้แบบที่ต้องอ้าปากร้องเหวอ! นอกจากนี้ตามสไตล์หนังของ วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง ก็จะต้องทิ้งอะไรๆ ไว้ให้ตีความกันต่อหลังออกจากโรงไปแล้วอีก
จุดอ่อนใหญ่ของหนังอีกประการคงเป็นไคลแม็กส์ของการเฉลยพล็อตสำคัญนั้น แทบจะเดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง และยิ่งเชื่อมั่นเมื่อเห็นคำใบ้รายทาง จนแทบจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับการช็อกคนดูช่วงท้าย แต่ในขณะเดียวกันหนังก็มีจุดแข็งใหญ่มาก ๆ ในการเป็นหนังที่สอดแทรกสังคมและการเมือง ประวัติศาสตร์ ลงไปอย่างแนบเนียน ทำให้บางคนถึงกับบอกว่าเก็ตไม่หมด หรือดูไม่รู้เรื่องบางจุด นั่นเพราะหนังซ่อนได้คมและซ่อนได้ลึกมาก ใครตีความออกก็จะยิ่งรู้สึกขนหัวลุกได้ยิ่งกว่าตัวหนังที่ดูเสียอีก
ซึ่งคำใบ้สำคัญที่ควรพกติดตัวไปรับชมคือ “เมืองไทยปี 2549” “พ่อ แม่-ลูก” “เมือง-ชนบท” โดยเฉพาะเรื่อง แม่-ลูก นั้น คือส่วนที่เราขนลุกที่สุด ยิ่งฉากการขึ้นครองบ้านของตัวละครหนึ่งในท้ายสุดนั้นยิ่งสวยงามและชวนพิศวงอย่างมาก และน่าจะตอบโจทย์ชัดที่สุดว่า วิญญาณในแง่ของความทรงจำนั้น หลอกหลอนเราได้ยาวนานและฝังลึกลงในสังคมเราได้ยิ่งกว่ารากของไม้ใหญ่เสียอีก
ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์ สิงสู่
ภาพยนตร์ค่อนข้างสนุกชวนติดตามนะคะ แต่เสียที่ภาพยนตร์เดินเรื่องช้าและค่อนข้างอืด ทำให้คนดูขัดใจ แต่ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องความสยองขวัญแล้วละก็ ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยละค่ะ แต่ละฉากมีความสมจริง นักแสดงก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี ทำให้เราอินตามไปด้วยได้ไม่ยากเลย สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู ลองหามาดูกันนะคะ กับภาพยนตร์เรื่อง สิงสู่