รีวิว Child’s Play คลั่งฝังหุ่น
และในปีนี้ (2019) เจ้าชัคกี้ก็ได้กลับมาพบกับเราใหม่อีกครั้ง เพราะ แค้นฝังหุ่น ได้ถูกนำกลับมา Remake โดยผู้กำกับคนเดียวกับเรื่อง IT เป็นเวอร์ชั่นใหม่ในชื่อ ‘คลั่งฝังหุ่น’ ซึ่งความโหด และสยองไม่แพ้ภาคก่อนหน้านี้เลย แต่ความพิเศษของภาคนี้คือ เป็นภาคที่ไม่มีผีแม้แต่ตัวเดียว แต่เล่นกับระบบ AI แทน ซึ่งตรงส่วนนี้นี่แหละ ที่ทำให้หนังคลั่งฝังหุ่น แปลกใหม่ และมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ หรือหนังตุ๊กตาผีเรื่องอื่นๆ
ในเวอร์ชั่นนี้ ได้เล่าถึงตุ๊กตา Buddi ที่มีเทคโนโลยีระบบ AI ที่ก้าวล้ำ สามารถพูดคุยโต้ตอบและเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ได้ หรือแม้แต่เชื่อมต่อกับมือถือ โทรทัศน์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ภายในบ้าน เจ้า Buddi ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท Kaslan ที่มีความก้าวล้ำทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ‘ชัคกี้’ เป็นตุ๊กตาที่แอนดี้ได้รับมาเป็นของขวัญวันเกิด แต่มันดันแตกต่างจากตุ๊กตาตัวอื่น เพราะมันเป็น Faulty Product หรือสินค้าชำรุด ที่เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ทุกอย่างแม้กระทั่งพฤติกรรมความรุนแรง แต่ความน่ารัก (และหลอน) ของเจ้าชัคกี้ตัวนี้ก็คือ มันเป็นเพื่อนที่ดีของแอนดี้มากๆ มันไว้ใจและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แอนดี้มีความสุข แม้กระทั่งฆ่าคน! เอาแล้วๆๆๆๆ แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นเหยื่อในฆาตกรรมครั้งนี้บ้างล่ะ! และเหยื่อแต่ละคนต้องตายอย่างทรมานแค่ไหน เรื่องราวจะดำเนินไปและจบอย่างไร หุหุหุ น่าสนุกใช่มั้ยล่ะ! ขอบอกเลยว่า หลังดูหนังเรื่องนี้เสร็จแล้วสมองมึนมากๆ หลอนไปนานเลย เพราะฉากฆ่าแต่ละฉากมันโหดถึงใจจริงๆ
รีวิว Child’s Play คลั่งฝังหุ่น
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ยอมรับเลยว่า ผู้เขียนได้เขียนออกมาได้ดีจริงๆ การวางโครงเรื่องยังคงเป็นเรื่องราวเรื่องเดิมที่เล่าถึงแม่ลูกที่ย้ายเข้ามาในเมืองใหม่ และตุ๊กตาชัคกี้ที่มาสร้างความสยอง แต่คราวนี้มาในแนวที่แปลกใหม่ ทำให้หนังดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ไม่ซ้ำซากจำเจ การดำเนินไปของเรื่องมีความสมเหตุสมผล แถมมีให้เราลุ้น ให้เรารู้สึกเหนื่อย พร้อมกับหลอนประสาทได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ ดังนั้นโลลิขอให้คะแนนเต็มในตัวเนื้อเรื่องไปอย่างไม่คิดมากเลยค่าาา
ความโหดและความหลอนของเวอร์ชั่นนี้เองก็ไม่เบา รู้สึกเหมือนจะเป็นหนังเรท R ด้วยค่ะ โลลิแอบปิดตาไปบ่อยอยู่เหมือนกัน นักแสดงก็เล่นดี โดยเฉพาะ แอนดี้ (เกเบรียล เบตแมน) ทำเอาเราก็รู้สึกกดดันไปด้วย นึกถึงว่าถ้าเราเป็นเด็กที่อายุเท่าแอนดี้ แล้วต้องเจอเหตุการณ์สุดหลอนของตุ๊กตาเพื่อนรักอยู่ตลอด แถมพูดก็ไม่มีใครเชื่อ ต้องจัดการปัญหาเองแทบทุกอย่าง เราจะเป็นอย่างไร คงรับไม่ไหวเป็นแน่ แต่ในส่วนที่รู้สึกหนังเรื่องนี้จะเกินจริงไปหน่อยก็ตรงที่ชัคกี้มีความฉลาดมากกว่าระบบ AI ทั่วไป จนแทบจะฉลาดกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ มีการวางแผนการฆ่าที่ไม่ตรงไปตรงมา มีความคิดความรู้สึก รู้จุดอ่อนของแอนดี้ มีความผูกผันอย่างกับเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทั้งๆ ที่เป็นแค่ตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิตจริงๆ แต่ก็อภัยได้ เพราะตรงนี้แหละ ที่ทำให้หนังมีรสชาติและหลากหลายอารมณ์ด้วยกัน
เนื้อเรื่อง
มันเป็นเรื่องของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ที่คาเรน (Aubrey Plaza) เป็นพนักงานแคชเชียร์ในห้างแห่งหนึ่ง เธอลอบเก็บเอาของเล่นชิ้นหนึ่งที่ลูกค้าเอามาคืนเพราะ “ไม่ตรงสเป็ก” เพื่อเอาไปให้ลูกเป็นของขวัญ ของเล่นชิ้นนั้นคือ ตุ๊กตาเพื่อนเล่นของเด็กที่กำลังจะตกรุ่น โดยเธอหารู้ไม่ว่า มันเป็นตุ๊กตาชำรุดตัวเกิดมาอย่างสุดชั่ว มันได้กลายเป็น “ชัคกี้” เพื่อนเล่นของลูกชาย แอนดี้ (Gabriel Bateman) ทว่ามันเป็นตุ๊กตาที่ไม่สมบูรณ์ ควบคุมด้วย AI ที่บิดๆ เบี้ยวๆ แทนที่มันจะกลายเป็นเพื่อนรักผู้รู้ใจของแอนดี้ มันกลับเอาใจแอนดี้ด้วยวิธีการแปลกๆ
ชื่อภาพยนตร์: Child’s Play / คลั่งฝังหุ่น
ผู้กำกับภาพยนตร์: Lars Klevberg
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Tyler Burton Smith
นักแสดงนำ: Aubrey Plaza, Mark Hamill, Tim Matheson, Brian Tyree Henry, Gabriel Bateman
แนว/ประเภท: Horror
เรท: USA/18, ไทย/
ความยาว: 90 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 25 กรกฎาคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Orion Pictures, Bron Creative, Creative Wealth Media Finance ดูหนังออนไลน์
การดำเนินเรื่อง
ฮอลลีวู้ดในยุค 80s ได้สร้างอสุรกายจอมเชือดขึ้นมามากมายทั้ง ไมเคิล มายเออร์ , เฟรดดี้ ครูเกอร์ , เจสัน วอฮีร์ และ เลเธอร์เฟซ ทุกรายยังคงสานต่อตำนานสยองขวัญสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้ บางรายก็ยังคงมีภาคต่อ บางรายก็ถูกรีบู๊ต บางรายก็ย้อนไปเล่าเรื่องราวก่อนหน้า แล้วก็มาถึงคิวของอสุรกายตัวจิ๋ว “ชัคกี้” ที่ถึงคราวรีบู๊ตสักที หลังสานต่อมาถึง 7 ภาคภายในระยะเวลา 30 ปี “ชัคกี้” เป็นที่รู้จักกันในฐานะตุ๊กตาเด็กชายที่กลายมาเป็นจอมเชือดขนาดเล็กตามความโหดกระหายเลือดไม่ได้เล็กตามตัวเลย ชัคกี้ เริ่มแนะนำตัวให้โลกรู้จักใน Child’s Play (1989) จากมันสมองของ ดอน แมนชินี ผู้เขียนเรื่องและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของเจ้า “ชัคกี้” ที่เขารับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์เองทั้ง 7 ภาค และกำกับเองในภาคหลัง ๆ
รีวิว Child’s Play
แม้ว่าดอน จะเป็นเจ้าของคาแรกเตอร์ “ชัคกี้ แต่ค่าย MGM ที่เป็นเจ้าผู้ออกทุนสร้างและจัดจำหน่ายในวันนั้น ก็ได้สิทธิ์การเป็นเจ้าของหนัง Child’s Play ภาค 1 ไปโดยปริยาย ซึ่งจะมีสิทธิ์ในการรีเมกหนังภาคนี้โดยชอบธรรม และ MGM ก็ทำเช่นนั้น ด้วยการรีบู๊ต Child’s Play ครั้งแรกในรอบ 30 ปี แล้วก็สร้างจุดขายได้อย่างน่าสนใจด้วยการดึงเอา มาร์ก แฮมิลล์ ที่แฟนหนังทั่วโลกรู้จักเขาจากบท ลุค สกายวอล์กเกอร์ ในตำนานให้มาพากย์เสียง “ชัคกี้” แม้ว่า ลุค จะมีผลงานแสดงไม่กี่เรื่อง แต่เขาผ่านงานพากย์มานับสิบเรื่อง ฉะนั้้นงานพากย์จึงเป็นงานที่เขาถนัดมาก แล้วมาร์ก ก็ทำได้ดีจริง หนัง4k
ภาคนี้มีการปรับเปลี่ยนหลาย ๆ อย่างจากต้นฉบับ และเป็นการปรับเปลี่ยนที่ทำให้เรื่องราวเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แอนดี้ บาร์เคลย์ เด็กชายที่เป็นเจ้าของชัคกี้ ถูกปรับให้โตขึ้นเป็น 13 ปี จากเดิมเป็นเด็กน้อยวัย 6 ขวบ และจุดสำคัญสุดคือที่มาของ “ชัคกี้” ที่เวอร์ชันเดิมนั้น ชาร์ล ลี เรย์ ฆาตกรต่อเนื่องสุดโหด ถูกตำรวจยิง ก่อนตายได้ใช้เวทมนตร์วูดูย้ายวิญญาณของเขาไปสิงสู่ในตุ๊กตา “กู๊ดกาย” สินค้ายอดฮิตในวันนั้น แล้วเจ้าตุ๊กตาตัวนี้ก็ไปเป็นของแอนดี้ ชัคกี้ ก็เริ่มใช้สันดานโหดของฆาตกรต่อเนื่องออกสังหารเหยื่อผู้โชคร้ายแล้วป้ายความผิดให้แอนดี้
แต่ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ไม่มีเรื่องวิญญาณและเวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องราวของสมองกลอัจฉริยะ (A.I.) เข้ามาแทนที่ เล่าเรื่องของบริษัท แคสแลน ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฮเทคระดับโลก ได้ออตุ๊กตาในชื่อ “บัดดี้ดอลล์”ออกมา เป็นตุ๊กตาอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ควบคุมสั่งการอุปกรณ์ไฟฟ้าแบรนด์แคสแลนภายในบ้านทุกชิ้น พูดจาโต้ตอบและเรียนรู้ได้เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง ปัญหามาจากพนักงานฝ่ายผลิตคนหนึ่งโกรธแค้นเจ้านายที่ชอบดุด่า ก็เลยระบายอารมณ์ด้วยการปลดล็อกระบบควบคุมนิสัย และขอบเขตการเรียนรู้ ของตุ๊กตาบัดดี้ดอลล์ตัวหนึ่งซะ และตัวนั้นก็คือ”ชัคกี้” ที่ตกมาเป็นของแอนดี้ เด็กชายที่อยู่กับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว การขยับอายุของแอนดี้ให้โตขึ้น ก็ช่วยให้เล่าเรื่องได้กว้างขวางขึ้น บทสามารถเขียนให้เด็กในวัยนี้ทำอะไรได้มากกว่าเด็ก 6 ขวบ และเพิ่มเติมให้แอนดี้มีปัญหาในการได้ยินต้องใส่เครื่องช่วยฟังอยู่เสมอ ทั้งเรื่องหูที่บกพร่องและแอนดี้เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้ ทำให้เขาไม่ค่อยมีเพื่อน ก็ล้วนเป็นเหตุผลสนับสนุนที่ดี ที่ทำให้แอนดี้รู้สึกผูกพันกับเจ้าชัคกี้ได้อย่างลึกซึ้ง
รีวิว คลั่งฝังหุ่น
เรื่องบทที่มีการปรับเปลี่ยนหลาย ๆ อย่างได้เข้าที่เข้าทางกว่าต้นฉบับนี้ ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ ไทเลอร์ เบอร์ตัน สมิธ ชื่อไม่คุ้นเลย พอไปดูเครดิตก็เห็นว่า นี่คือมือเขียนบทหน้าใหม่จริง ๆ เคยแต่เขียนบทให้กับวีดีโอเกม มาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก และเป็นงานประเดิมที่น่าชื่นชม เลือกในการคงตัวละครหลักจากเวอร์ชันต้นฉบับไว้ แต่มีการปรับเปลี่ยนบุคลิกตัวตน ฉากหลังที่มาของแต่ละตัวละครได้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น ทำให้คนดูเข้าถึงความคิดการตัดสินใจสำคัญ ๆ ของตัวละครเหล่านี้ได้มากขึ้น
แม้กระทั่งตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์อย่าง “ชัคกี้” ก็ยังเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวมัน ไม่ใช่ตุ๊กตาผีที่ร้ายมาตั้งแต่เริ่มเรื่องอย่างต้นฉบับ แต่ร้ายเพราะสิ่งแวดล้อม โหดเพราะศึกษาจากคนรอบข้าง ได้ฟังคำหยาบ คำสบถจากผู้คน ได้เห็นความรุนแรงที่มนุษย์ปฏิบัติต่อกัน ได้เห็นแอนดี้และเพื่อน ๆ หัวเราอย่างมีความสุขเวลาได้ดูหนังเชือดโหดเลือดสาด สมองกลที่ถูกโปรแกรมมาให้เรียนรู้ก็เลยเข้าใจได้ว่า “มนุษย์มีความสุขที่ได้เห็นความรุนแรง” ก็เลยทำให้ Child’s Play (2019) เป็นหนังที่หน้าฉากเป็นหนังสยองขวัญ แต่ก็มีเนื้อหาที่วิพากษ์สังคมแบบกลาย ๆ ดูหนังออนไลน์4k
เรื่องย่อ Child’s Play
ในของปี 1988 หนังสยองขวัญเกรดบีที่แจ้งเกิดให้กับตัวละครตุ๊กตาผีชื่อชัคกี้ ในฉบับดั้งเดิมนั้นใช้ชื่อว่า ‘แค้นฝังหุ่น’ เรื่องราวจุดกำเนิดจากฆาตกรนามว่า ชาร์ลส ลี เรย์ ซึ่งกำลังถูกตามล่า ก่อนที่จะตายได้ร่ายคาถาถอดวิญญาณใส่ลงไปในตุ๊กตาตัวหนึ่ง และมีชื่อเรียกว่า “ชัคกี้” ซึ่งต่อมาก็ตกไปอยู่กับหนูน้อยวัยหกขวบ “แอนดี้ บาร์คเลย์” ซึ่งเจ้าฆาตกรนั้นก็ไล่ฆ่าคน และพยายามย้ายวิญญาณกลับไปยังร่างมนุษย์อีกครั้ง หนังชุดนี้ถูกสร้างมาทั้งหมด 7 ภาค โดยภาคล่าสุดพึ่งทำไปในปี 2017 หนังแผ่นไม่ลงโรงในชื่อ Cult of Chucky ซึ่งก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง การสร้างภาคใหม่ 2019 นี้ก็เป็นความพยายามปลุกวิญญาณชัคกี้มาลงโรงใหม่ โดยอาศัยช่วงจังหวะหนังขาขึ้นของหนังสยองขวัญหลายเรื่อง โดยผู้อำนวยการสร้างเรื่องนี้ก็มาจาก IT หนังสยองขวัญชื่อดังจากผลงานของ “สตีเฟน คิง” ในอดีตที่กลับมาทำใหม่แล้วดังเปรี้ยงปร้างเช่นกัน
เมื่อต้นทางโปรเจ็คต์มาจากความโลภตั้งใจเกาะกระแสล้วนๆ ปลายทางที่ออกมาก็แสดงให้เห็นความมักง่ายอย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่ค่ายหนัง ผู้กำกับ มือเขียนบท คนออกแบบตุ๊กตาชัคกี้ งานแอนิเมชั่นลวกๆ หนังพยายามใช้ชื่อเดิมมาหากิน อย่างชื่อ ชัคกี้ หรือตัวเอก แอนดี้ รวมถึงการเปิดเรื่องให้คิดว่าเป็นถอดวิญญาณในแบบภาคแรกมาสู่ตุ๊กตา หรือแม้แต่ชื่อไทย “คลั่งฝั่งหุ่น” ก็ตั้งให้เนียนไปกับชื่อดั้งเดิม “แค้นฝังหุ่น” แต่ในเนื้อหาจริงๆ ไม่มีส่วนคล้ายคลึงกับการฝังวิญญาณในเนื้อเรื่องภาคแรกเลย แถมยังทำออกมาได้เละเทะแย่ซะยิ่งกว่าชัคกี้ภาคไหนๆ ที่มีมาซะอีก เพราะความสมจริงอย่างหนึ่งของโครงเรื่องเดิมคือ เจ้าชัคกี้นี่เป็นฆาตกรที่มีเวทย์คุณไสย ทำให้มันมีอิทธิฤทธิ์ในตัวเองทำอะไรได้หลายอย่างมากมาย แต่สำหรับภาคนี้กลับให้เป็นตุ๊กตาฝังชิพ AI ที่คนงานตั้งโปรแกรมปลดล็อคความรุนแรง คำหยาบ แล้วดันเกิดเลยเถิดรักและปกป้องเจ้าของ (แอนดี้) มากเกินไปเท่านั้น แถมเจ้าตัวคนงานที่ตั้งโปรแกรม ก็ไม่ได้มีแบ็คกราวด์อะไรให้เข้าใจว่าทำไมถึงต้องฆ่าตัวตายหลังตั้งโปรแกรมตามด้วย ซึ่งทางคนเขียนบทคงแค่อยากให้คนที่เคยดูภาคแรกหลงเข้าใจผิดว่าจะมีเรื่องวิญญาณมาสิงเท่านั้น เรียกว่าเป็นการเขียนบทลวกๆ หลอกต้มคนดูแบบไม่เหตุผลรองรับการกระทำใดๆ เลยจริงๆ
สรุปโดยรวม Child’s Play
หนังเริ่มมาก็ตายตั้งแต่เปิดเรื่องด้วยการนำเสนอตุ๊กตายอดนิยมของเด็กๆ แต่ทำภาพลักษณ์หน้าตาออกมาเหมือนเด็กโข่งแก่เกินวัย ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นตุ๊กตายอดนิยมแบบในหนังนำเสนอไว้เลย แถมยังแสดงสีหน้าท่าทางออกมาได้ประดักประเดิด ดูตั้งใจให้ตลก แต่ไม่รู้สึกตลกตรงไหนเลยจริงๆ (ในโรงไม่ได้ยินเสียงขำสักครั้ง) ซึ่งตัวชัคกี้แบบดั้งเดิมดูเป็นตุ๊กตาเด็กเล็กของจริง แล้วพอเปลี่ยนเป็นร่างโหดก็ทำได้สมจริงน่ากลัวกว่าเวอร์ชั่นใหม่มาก น่าแปลกที่เวอร์ชั่นใหม่ในยุคที่ CG ดีกว่า แต่กลับทำออกมาได้แย่กว่าหนังสมัย 30 ปีก่อนที่ยังไม่ใช้ CG ในทุกทาง ชัคกี้ภาคใหม่นี้ทำได้แค่สยองในความพิลึกหน้าตาแปลกๆ ของมันเท่านั้น (ใครไม่เชื่อลองดูวิดีโอเทียบที่ท้ายงานรีวิวได้ครับ)
Child’s Play 2019 นำเสนอชัคกี้ในแบบของเล่นไฮเทคที่แฝงแง่ลบของเทคโนโลยีไว้ แต่กลับเลยเถิดไม่สมเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น (ความสามารถระดับสกายเน็ตครองโลกได้เลยละกัน) ท้ายเรื่องมีความพยายามเล่นใหญ่โต ให้กองทัพสินค้าของ Kaslan บุกโจมตีผู้คนในห้างเล็กๆ ประจำเมือง แต่ก็ทำออกมามืดทึมๆ มั่วๆ แบบงบจำกัด เหมือนหนังเกรดบีที่พยายามดันตัวเองขึ้นโรงหวังแจ้งเกิดอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่แค่งานหนังเกรด B ที่แอบลักไก่มาฉายโรงหนังจอเงิน แต่เรียกว่าเป็นงานเกรด F เลยก็ว่าได้ Child’s Play ภาคใหม่ไม่ใช่แย่ในทุกทาง หนังยังทำการฝังกลบซีรีส์นี้ให้จมดินลงไปอีก แถมยังทำให้เครดิตของผู้สร้าง IT ดูแย่ลงในสายตาแฟนที่ติดตาม กลายเป็นหวังแตกไลน์หากินกับชื่อเสียง IT แบบลวกๆ ซึ่งถ้ายังเอาชื่อเครดิตตรงนี้ไปปะโปสเตอร์หนังหลอกคนดู ความหวังที่จะได้เห็นหนังสยองขวัญคุณภาพนอกสายเจมส์วานก็คงหมดหวังชัวร์ป๊าบแน่นอนครับ
สรุป
สำหรับผู้เขียนหนังสยองขวัญ Child’s Play คลั่งฝังหุ่น เป็นหนังที่ “พอดูได้” มันไม่ได้ว้าว! หรือมีอะไรแปลกใหม่ที่น่าสนใจนัก แก่นเรื่องก็ยังคงเน้นไปที่ตุ๊กตาสุดคลั่งที่พร้อมสังหารทุกคนที่มันเกลียดขี้หน้าเหมือนเดิม และแน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยเลือดสาดกระจายไปทั่ว ดังนั้น ถ้าหากใครอยากหาหนังดูฆ่าเวลาแนวเชือดที่ไม่คิดอะไรมาก หนังสยองขวัญ Child’s Play คลั่งฝังหุ่น ก็ยังพอเป็นตัวเลือกที่รับได้เช่นกัน
9/10