รีวิว Pet Sematary – กลับจากป่าช้า

แม้จะมีข้อสงสัยในเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องราวที่ว่าที่ฝังศพสัตว์เลี้ยงเป็นสนามวางไข่ของเหล่าซอมบี้ หลุยส์ ครีด (มิดคิฟฟ์) ถูกบังคับให้ต้องรับมือกับหลุมนรกเมื่อเด็กวัยหัดเดินของเขาถูกรถบรรทุกวิ่งทับ – บางทีเขาอาจจะเติบโตขึ้นเป็นที่รัก ซอมบี้

จากภาพยนตร์ 15 เรื่องที่ได้รับจาก King มีเพียง Carrie, Stand By Me และ (เป็นที่ถกเถียงกัน) The Shining เท่านั้นที่มีความโดดเด่น นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีใครสามารถสร้างภาพยนตร์ที่ไม่ดีหรือไม่แยแสจากนวนิยายของสตีเฟ่นคิงได้ดีกว่าสตีเฟ่นคิงเอง – เขากำกับการแสดงภาพจำลอง Maximum Overdrive แบบวิดีโอเท่านั้นและเขียนบทผู้แพ้เช่น Silver Bullet, Cat’s Eye และ Creepshow Pet Sematary เป็นหนึ่งในนวนิยายสยองขวัญที่เป็นส่วนตัวและมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งที่สุดของ King โดยเล่นซ้ำ The Monkey’s Paw ในระดับมหากาพย์เพื่อจัดการกับความกลัวความตาย ความปวดร้าวของผู้ปกครอง และหัวข้อสำคัญอื่นๆ แล้วทำไมมันถึงแบนได้ขนาดนั้น?

รีวิว Pet Sematary กลับจากป่าช้า

ปัญหาหนึ่งคือ King มักจะเขียนเกี่ยวกับหัวข้อที่ซ้ำซากจำเจได้ดีจนคุณไม่สังเกตเห็นแง่มุมที่ถูกแฮ็กในหนังสือของเขา ดังนั้นเมื่อรายละเอียดตัวละครทั้งหมด ภูมิหลังที่แม่นยำ และกลไกการจัดวางโครงเรื่องที่ซับซ้อนถูกตัดออกไป พวกคุณทุกคน get เป็นภาพยนตร์ทีวีเรื่องไร้สาระที่มีตัวละครทำสิ่งที่โง่เขลาอย่างบ้าคลั่งเพื่อยืดอายุความเจ็บปวด

ที่นี่ ฮีโร่ของเรา (Midkiff) ได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนบ้านชราผู้แปลกประหลาด (Gwynne) ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ฝังอยู่ในสุสาน Micmac นอกสุสานสัตว์เลี้ยงนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งในฐานะสัตว์ประหลาดที่ไร้วิญญาณ สิ่งนี้แสดงให้เห็นเมื่อแมวที่ตายแล้วกลับมาเป็นปีศาจตานีออน นอกจากนี้ Midkiff ยังได้รับแจ้งว่ามนุษย์กลับมาเป็นซอมบี้ที่มีความรุนแรง และมีผีที่กระจัดกระจายในสมองโผล่ขึ้นมาเป็นระยะๆ เตือนเขาว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับพลังแห่งชีวิตและความตาย เขาเพิกเฉยต่อคำแนะนำที่คาดไม่ถึง และเมื่อลูกชายตัวน้อยของเขาถูกฆ่าตายระหว่างทาง เขาก็ขโมยหลุมศพของลูกด้วยการร้องไห้อาบนํ้าว่า “ฉันจะจับเธอออก ลูกชาย” และมุ่งหน้าไปรับเด็กกลับ ในหนังสือที่มีแรงจูงใจ 300 หน้า คุณสามารถกลืนเนื้อเรื่องลงไปได้เลย แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ และคุณต้องนั่งอดทนผ่านฉากหลังจากฉากโง่ๆ ก่อนที่การโจมตีของซอมบี้จะเริ่มต้นขึ้น ดูหนัง

เนื้อเรื่อง

นับว่าเป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่ได้รับความนิยมในระดับต้น ๆ ของสตีเฟน คิง ที่ผู้อ่านชื่นชมและยกให้เป็นนิยายที่ชวนขนหัวลุกมาก ทำให้นิยายถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในช่วงเวลาแค่ 3 ปีหลังนิยายออกขาย แม้ว่าหนัง Pet Sematary เวอร์ชั่นแรกในปี 1989 จะไม่จัดอยู่ในทำเนียบหนังจากนิยายของสตีเฟน คิง ที่ถูกใจแฟน ๆ นัก แม้ว่า pet sematary 1989 จะเป็นหนังน้อยเรื่องนักที่เจ้าตัวสตีเฟน คิง รับหน้าที่ดัดแปลงนิยายของเขาเป็นบทภาพยนตร์ด้วยตัวเอง แต่หนังก็ยังมีฉากสยองที่อยู่ในความทรงจำมาตลอด

ผ่านมา 30 ปี Pet Sematary ก็ได้ฤกษ์ถูกรีเมคอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่มีชื่อสตีเฟน คิง มาเกี่ยวข้องในงานเบื้องหลัง แต่เป็นหน้าที่ของ เจฟฟ์ บูห์เลอร์ มือเขียนบทหน้าใหม่มาแรง ที่เพิ่งมีผลงาน The Prodigy ออกฉายไปไม่นานนี้ และยังจะมี Jacob’s Ladder อีกหนึ่งบทประพันธ์ของสตีเฟน คิง ที่รอกำหนดฉาย แล้วก็ยังมี Grudge หรือ จูออน ที่ถูกกลับมารีเมคอีกครั้ง จำชื่อเขาไว้ได้เลยคนนี้ขึ้นแท่นมือเขียนบทหนังสยองขวัญแห่งยุคนี้แล้ว เจฟฟ์ เล่าเรื่องราวในครึ่งแรกตามเนื้อหาในเวอร์ชั่นแรกเกือบจะเป๊ะ ๆ เล่าเรื่องครอบครัว “ครีด” ที่ย้ายถิ่นฐานจากบอสตันมาอยู่ในเมืองลัดโลว์ เมืองเล็ก ๆ ในรัฐเมน ด้วยเหตุจาก หลุยส์ ครีด ผู้พ่อเป็นแพทย์ที่ย้ายมาประจำการในเมืองนี้ ในครอบครัวยังมี เรเชล ภรรยาที่รับหน้าที่แม่บ้านดูแล เอลลี่ ลูกสาววัย 9 ขวบ และ เกจ ลูกชายวัยไม่น่าจะเกิน 2 ขวบ ดูหนังออนไลน์

ฉายครั้งแรก: 16 มีนาคม 2562
ผู้กำกับ: Kevin Kolsch, เดนนิส วิดไมเออร์
ดัดแปลงจาก: กลับจากป่าช้า

การดำเนินเรื่อง

บ้านของครอบครัวครีดดูโอ่อ่าใหญ่โตมาก เป็นบ้านที่อยู่ในพื้นที่ป่ามหาศาลกว่า 126 ไร่ แต่ด้านหน้าบ้านติดถนนหลวงที่มีรถบรรทุกวิ่งกันขวักไขว่ และเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์ ครอบครัวหลุยส์มีเพื่อนบ้านเพียงหลังเดียวในละแวกนั้นคือ “จัด” ลุงแก่ ๆ ที่อยู่โดดเดี่ยวเพราะเมียป่วยตายไปนานมากแล้ว จัดมาสานสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวครีด ด้วยความเป็นคนเก่าแก่เลยรู้ประวัติความเป็นมาของพื้นที่ละแวกนี้เป็นอย่างดี หลังจากย้ายมาได้ไม่นาน “เชิร์ส” แมวเหมียวของเอลลี่ก็กลายเป็นเหยื่อของรถบรรทุก ด้วยความที่เป็นแมวสุดรักของลูกสาว จัดเลยพาหลุยส์ไปยังสุสานโบราณของชนพื้นเมืองที่อยู่ในป่าลึก ด้วยพลังลึกลับของผืนป่านี้ทำให้เชิร์สกลับมามีชีวิตและกลับมาหาเอลลี่ในคืนนั้น

แต่เชิร์สไม่ได้กลับมาในสภาพแมวที่น่ารักตัวเดิม กลับกลายเป็นแมวดุร้าย เริ่มกัดและข่วนคนในครอบครัว จัดรู้สึกว่าเป็นความผิดของเขาที่แนะนำให้หลุยส์เอาเชิร์สไปฝังที่นั่น ทำให้หลุยส์ต้องเอาเชิร์สไปปล่อยไว้ไกล ๆ บ้าน แต่แล้วเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ครอบครัวครีดก็ต้องเสียสมาชิกในครอบครัวรายต่อไปให้กับรถบรรทุกที่วิ่งผ่านหน้าบ้าน และรอบนี้ถึงคิวของเอลลี่ ที่เรารู้ทันทีว่าหลุยส์จะตัดสินใจทำอย่างไรกับศพของลูกสาวสุดรักของเขา

รีวิว Pet Sematary

หนังเลือกคงพลอตหลัก ๆ และตัวละครเดิมไว้ครบถ้วน รายละเอียดถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงท้าย มีการเพิ่มบทบาทของผี วิคเตอร์ ปาสเคา คนไข้ของหลุยส์ที่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ และยังคงตามมาหลอกหลอนเขาอยู่บ่อยครั้ง และที่เพิ่มบทบาทมาอย่างมากคือ เซลดา พี่สาวของเรเชล ที่ตายไปในตอนที่เรเชลยังเด็ก และเธอรู้สึกว่าเป็นตราบาปอยู่ในใจตลอดมา ถ้ามองว่าการเพิ่มบทบาทของเซลดาเข้ามานั้น ก็ช่วยเพิ่มดีกรีความสยองให้กับหนังได้อย่างมาก เพราะผีเซลดานี่ถือว่าน่ากลัวสุดแล้วในเรื่องนี้ แต่ถ้ามองถึงน้ำหนักที่มีผลต่อเรื่องราว ก็ต้องบอกว่าเซลดา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของหนังเลย เป็นแค่ผีในอดีตที่ตามหลอนจิตใจของเรเชลเท่านั้น ดูหนัง4k

รีวิว Pet Sematary - กลับจากป่าช้า
รีวิว Pet Sematary – กลับจากป่าช้า

จุดที่เปลี่ยนแปลงหนักหนาสุดก็คือการเปลี่ยนให้ เอลลี่ ลูกสาวคนโตกลายเป็นผีที่กลับจากหลุมศพ จากเดิมในหนังเวอร์ชั่นก่อนและนิยายต้นฉบับที่สตีเฟน คิง เขียนให้เกจ น้องชายคนเล็กเป็นเหยื่อรถบรรทุกและเป็นผีเด็กที่กลับจากป่าช้า ซึ่งทีมงานก็ให้เหตุผลในการปรับเปลี่ยนไว้น่าสนใจว่า การให้เอลลี่ที่เป็นเด็กวัย 9 ขวบรับหน้าที่ผีตัวหลักของเรื่องนั้น เด็กโตสามารถสร้างสถานการณ์น่ากลัวได้มากกว่าเด็ก 2 ขวบ บวกกับการถ่ายทำที่จะต้องกำกับเด็กเล็กนั้นยากเกินไป แล้วจะต้องใช้ซีจีมาช่วยอีกในหลาย ๆ ฉากที่เด็กไม่สามารถแสดงได้ จากที่ดูก็เห็นพ้องตามนั้นจริง สาวน้อย เจเต ลอว์เรนซ์ ที่มารับบท เอลลี่ ตอนเป็นเด็กผู้หญิงก็ดูธรรมดาเผิน ๆ ไม่ได้เข้าตาโดดเด่นอะไรนัก แต่พอกลายร่างเป็นผีเด็กนี่ก็น่ากลัวดี

นี่เป็นหนังที่เน้นความสยองแบบค่อยๆ ไต่ระดับ ไม่ใช่แนวตุ้งแช่สักเท่าไหร่ โดยเน้นสร้างบรรยากาศลึกลับชวนสยองของผืนดินอาถรรพ์ในหลายรูปแบบ ทำให้ครอบครัวนี้เริ่มพบกับสิ่งแปลกประหลาด หาคำอธิบายไม่ได้ อย่างของ “เรเชล” ผู้เป็นแม่ ก็เป็นภาพกับเสียงหลอนของพี่สาวพิการที่ตายไปในอดีต ส่วน “ครีด” พ่อที่เป็นหมอ ก็เจอวิญญาณคนตายตามหลอนอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งหมดนั่นก็แค่ภาพและเสียงไม่มีตัวตนยืนยันได้ จนเกิดเหตุแมวของลูกสาวคนโต “เอลลี่” ถูกรถชนแล้วครีดนำไปฝังไว้ในพื้นที่ลึกลับหลังบ้าน จากคำแนะนำของ “จั๊ด” เพื่อนบ้านอาวุโสที่รู้ความลับของพื้นที่นี้มาก่อน ซึ่งเจ้าแมวนี้ก็กลับมาบ้านนี้อีกครั้งภาย แต่มันไม่ได้กลับมาเหมือนปกติ นิสัยกลับเปลี่ยนไปดุร้ายผิดปกติไปจากตัวเก่ามาก แต่ครีดเองกลับคิดว่าเป็นปาฏิหาริย์มากกว่าเรื่องที่ควรสยอง เพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียแมวที่รักไป ซึ่งนั่นเป็นความผิดมหันต์ที่ส่งต่อให้เรื่องร้ายแรงตามมา

 

 

รีวิว กลับจากป่าช้า

ด้วยการที่เขียนเปิดช่องให้ใส่ฉากสยองได้มากขึ้น ทำให้ pet sematary เวอร์ชั่นนี้อัดแน่นไปด้วยฉากลุ้น ๆ ว่าจะมีอะไรโผล่ออกมาให้สะดุ้งตอนไหน เน้นไปที่บรรยากาศความน่ากลัวมากกว่าจะเล่นกับฉากตุ้งแช่ ผีในหนังก็น่ากลัวทุกตัว ทั้งผีวิคเตอร์ ปาสคาล , ผีเซลดา , ผีเด็กเอลลี่ , ผีแมว ชอบที่หนังเลือกจะเล่นกับการคาดหวังคนดู ด้วยการคงฉากเฉือนข้อเท้าสุดหวาดเสียวจากเวอร์ชั่น 1989 มาหยอกเล่นในเวอร์ชั่นนี้ ให้คนดูลุ้นใจหายใจคว่ำว่าจะเหยื่อจะโดนเฉือนหรือยังตอนไหน

ก็ถือว่าทีมงานชุดใหม่สามารถยกระดับความน่ากลัวของ pet sematary ขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่ละเลยไปก็คือความรู้สึกร่วมที่หลุยส์มีต่อลูกสาว ที่จะพาให้เราเข้าใจถึงความรู้สึกที่เขาเลือกฝืนกฏธรรมชาติพาลูกสาวไปฝังในสุสานโบราณ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นไร และที่อาจหาญมากที่สุด ก็คือการเลือกเปลี่ยนฉากจบของหนังที่ไปไกลจากของเดิมมาก เรียกว่าเปลี่ยนแบบไม่เกรงใจสตีเฟน คิง เลย เพราะเจ้าตัวไม่ได้มาเกี่ยวข้องในเวอร์ชั่นนี้แล้ว น่าจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบกับฉากจบแบบใหม่นี้ ก็เป็นข้อดีสำหรับคนที่เคยดูเวอร์ชั่น 1989 แล้วได้ลองมาสัมผัสฉากจบแบบใหม่นี้ดู แล้วถามตัวเองว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ดูหนังออนไลน์4k

เรื่องย่อ Pet Sematary

ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวครีด คนเป็นพ่อตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่บ้านนอกเพราะอยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์และอยู่กับลูกให้มากขึ้น หลังจากย้ายเข้ามาได้ไม่นานแม่กับเอลลี่ลูกสาวคนโตของครอบครัวก็ได้เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งใส่หน้ากากสัตว์เดินเข้าไปในป่าเหมือนทำพิธีกรรมบางอย่าง และด้วยความขี้เผือกของเอลลี่นางก็เลยวิ่งเข้าไปในป่าแล้วนางก็ได้เจอกับ Pet Sematary หรือสุสานของสัตว์เลี้ยง แล้วก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆโดยเกิดขึ้นกับเชิร์ชแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวครีด ได้ตายอย่างสยดสยองและคนเป็นพ่อก็ได้นำเชิร์ชไปฝังที่สุสานนั้นพร้อมกับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง แมวของพวกเขาก็ได้กลับมา แต่มันกลับมาไม่เหมือนเดิม มันดุร้ายขึ้นและมันพร้อมจะฆ่าทุกคนในครอบครัว
“บางทีตายเสียยังดีกว่า”

ข้อมูลภาพยนตร์
Title : Pet Sematary | กลับจากป่าช้า
Genre : Thriller, Horror, Drama, Psychological, Fantasy(??)
Studio : Di Bonaventura Pictures
Distributor : Paramount Pictures
Release Date : 11 April 2019
Running Time : 101 Min
Rating : 18+
Director : Kevin Kölsch & Dennis Widmyer
รีวิว Pet Sematary - กลับจากป่าช้าสรุปโดยรวม กลับจากป่าช้า

ข้อดีประการสำคัญของการดูฉบับรีเมคนี่ก็คือ มันทำให้ผมรู้สึกชอบภาคต้นฉบับมากยิ่งกว่าเก่า

จริงๆ แต่เดิมผมก็ชอบภาคต้นฉบับอยู่แล้วน่ะนะครับ จำได้ว่าดูรอบแรกทาง ITV สมัยที่เขายังมีหนังฉายตอนดึกของคืนวันอาทิตย์ ตัวหนังมีกลิ่นอายสไตล์ยุค 90 ที่สยองแบบกินบรรยากาศ ตอนแรกอะไรๆ จะดูปกติธรรมดา แต่สักพักก็จะเริ่มมีเรื่องมาให้ขนลุกแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ค่อยๆ ไต่ระดับความสะพรึงไปทีละขั้นๆ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้สุดยอดน่ะนะครับ แต่ก็ถือว่าทำออกมาน่าติดตามและเป็นหนังที่ดัดแปลงจากงานของ Stephen King ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง

มาในฉบับนี้ ผมรู้สึกว่าหนังพยายามทำบรรยากาศให้มันอึมครึมมืดทึมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมืดด้วยภาพ มืดด้วยบรรยากาศ มืดด้วยปมของตัวละคร (ที่แต่ละคนจะมีแผลในใจไม่มากก็น้อย) คืออารมณ์มันดูหม่นตลอดไปจนจบ ซึ่งสำหรับบางคนก็อาจจะชอบสไตล์นี้น่ะนะครับ แต่สำหรับผมแล้วมันทำให้รู้สึกว่าหนังมีโทนเดียว คือ “ทึม อึม ครึม” ไม่ได้มีการไต่ระดับทางความน่ากลัวสักเท่าไร รีวิวหนังผี

สรุป

มันไม่เหมือนภาคต้นฉบับที่เวลาเล่าถึงเรื่องตัวละคร (ตอนยังไม่สยอง) ภาพก็จะมาพร้อมบรรยากาศปกติเหมือนหนังชีวิตทั่วๆ ไปที่มีอารมณ์ขัน อารมณ์เดินดิน ซึ่งนั่นทำให้พอถึงฉากสยองหรือฉากกระตุกจิตมันก็จะทำให้เราสะดุ้งขึ้นมาได้ เปรียบเหมือนเรานั่งดูภาพพื้นที่มีสีขาวไปสักพักหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็มีสีแดงโผล่ขึ้นมาน่ะครับ มันจะกระตุกจิตเราได้ เพราะมันมีความต่างระดับทางอารมณ์เกิดขึ้น มันค่อยๆ พาเราไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ

ในขณะที่ภาคนี้มันเหมือนเราจ้องภาพทึมๆ มาตลอด ทึมแล้วทึมอีกแทบไม่มีอะไรคลายอารมณ์เลย ทีนี้ต่อให้มีฉากน่ากลัวมา อารมณ์มันก็ไม่พุ่ง จิตมันก็ไม่พล่าน เพราะมันไม่มีความต่างระดับ มันก็เหมือนแค่มองภาพทึมแล้วก็เจอภาพทึมขึ้น (แต่ก็ยังอยู่ในโทนทึมเหมือนกัน ไม่ได้แหวกไปโทนอื่น) ทำให้แม้มันจะสยองแค่ไหน แต่มันก็จะไม่กระตุกจิตเราสักเท่าไร

ในแง่งานสร้างหรือฉากต่างๆ ถือว่าโอเคครับ ถือว่าเวิร์กมากแล้วสำหรับหนังทุน $20 ล้าน ดาราจริงๆ ก็แสดงกันดีครับ โดยเฉพาะในบทเอลลี่นี่เล่นดีจริงๆ ดูน่าเชื่อมากๆ ต้องบอกว่าดารานี่เล่นดียันแมวเลยครับ เจ้าแมวที่ฟื้นมาจากความตายนี่มันดูชวนขวัญผวาจริงๆ

คือผมว่าจริงๆ หนังมันโอเคแหละครับ เพียงแต่สไตล์และทิศทางการเล่าเรื่องมันไม่มีลูกเล่นมากพอที่จะทำให้เกิดความสยองหรือขนลุก อย่างที่บอกน่ะครับว่าหนังนำเสนอแบบโมโนโทนมากจนขาดความหวือหวา ขาดจังหวะที่จะทำให้เลือดเราสูบฉีดหรือทำให้เราผวาจนตัวชา

7.5/10