รีวิว Scary Stories to Tell in the Dark (2019) คืนนี้มีสยอง

หนังเรื่องนี้เป็นการหยิบเอาวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง Scary Stories ทั้ง 3 เล่ม ของนักเขียน อัลวิน ชวาร์ส มาดัดแปลงให้กลายเป็นหนังขนาดยาวเรื่องเดียว โดยหนังเล่าเรื่องราวในปี 1968 ในเมืองมิลวัลเล่ย์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อแก๊งเด็กที่ลองดีเข้าไปในบ้านร้างของครอบครัวเก่าแก่ ที่ซึ่งมีประวัติว่า ซาร่าห์ ลูกสาวของบ้านถูกขังและแขวนคอด้วยผมตัวเอง! สเตลล่า เด็กสาวผู้ชื่นชอบเรื่องราวสยองขวัญ ได้หยิบสมุดบันทึกของซาร่าห์ติดตัวมาด้วย ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าในหนังสือเล่มนั้นมีเรื่องสั้นน่ากลัวๆ เต็มไปหมด ที่พีคกว่านั้นคือมีบางเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่แบบ real-time ด้วย และยังมีชื่อของพวกเขาเป็นตัวละครในเรื่องอีก! แก๊งเด็กกลุ่มนี้จึงต้องหาทางหยุดยั้งเรื่องราวทั้งหมด ก่อนที่หนังสือจะเขียนสตอรี่ให้พวกเขาพบจุดจบไปทีละคนๆ

รีวิว Scary Stories to Tell in the Dark (2019) คืนนี้มีสยอง

เป็นหนังสยองขวัญพล็อตนิทาน เด็กดูได้ ถ้าใครชอบบรรยากาศ เรื่องเล่านิทาน ผีสาง มอนสเตอร์ ออกมาหลอกหลอนแบบไม่โหดเกินไป ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ หนังไม่ค่อยมีฉากให้สะดุ้งตกใจมากนัก ไม่มีความสยองหรือแหวะนัก ไม่มีฉากโหดเลือดสาด หนังดูได้แบบเพลินๆ สนุกๆ สไตล์นิทาน มีฉากให้ลุ้นระทึกเอาใจช่วยตัวละครที่กำลังโดนผีมอนสเตอร์ไล่ล่าเอาชีวิต ในอเมริกานี่หนังสือประเภทสยองขวัญสำหรับเด็กและเยาวชนดูจะเป็นที่นิยม มีนักเขียนที่ครองตลาดแนวนี้ก็คือ อาร์.แอล. สไตน์ ที่ฮอลลีวู้ดก็เคยหยิบ Goosbumps ของเขามาสร้างเป็นภาพยนตร์ไปแล้ว และอีกรายหนึ่งก็คือ อัลวิน ชวาร์ต เขามีผลงานตีพิมพ์มาแล้วมากกว่า 50 เล่ม ผลงานของเขามีชื่อเสียงมากในยุค 70s – 80s และเรื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือหนังสือชุด Scary Stories to tell in the Dark เป็นหนังสือชุด 3 เล่ม ออกมาในปี 1981,1984 และ 1991 ตามลำดับ เนื้อหาในหนังสือจะเป็นการรวมเรื่องสั้นที่อัลวินหยิบเอาความเชื่อของคนโบราณและตำนานพื้นบ้านมาดัดแปลงเป็นเรื่องราวสยองขวัญ ดูหนัง

เนื้อเรื่อง

เหตุการณ์ในหนังมีฉากหลังเป็นยุคสงครามเวียดนามพอดิบพอดี (ปี 1968) ในขณะที่หนุ่มสาวผู้อาศัยอยู่ในเมืองมิลวัลเลย์ ที่มีชีวิตเป็นวัยรุ่นในโรงเรียนมัธยมธรรมดาสามัญ กลับได้ตัดสินใจนึกสนุกเดินเข้าบ้านผีสิงอันเป็นตำนานประจำเมือง ที่ว่าด้วยบ้านของ “ซาร่าห์ เบลโลวส์” หญิงสาวที่เสียชีวิตและยังคงคลั่งแค้นอยู่จนถึงปัจจุบัน

สเตลล่า นิโคล (โซอี้ มาร์กาเร็ต คอลเลต) ได้ค้นพบ “หนังสือของซาร่าห์ เบลโลวส์” ในบ้านผีสิงหลังดังกล่าว ด้วยความบังเอิญ สเตลล่าได้หยิบหนังสือเล่มนั้นกลับมาที่บ้าน ในค่ำคืนนั้นเอง ได้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติกับทอมมี่ (ออสติน เอบราห์ม) เมื่อเขาค้นพบว่าหุ่นไล่กาฮาโรลด์ลุกขึ้นมามีชีวิตและไล่ล่าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ระหว่างที่เรื่องราวเกิดขึ้น หนังสือของซาร่าห์ก็เขียนเล่าเรื่องราวนั้นเป็นตัวหนังสือสีเลือดไปพร้อมๆกัน

การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของทอมมี่ สร้างความประหลาดใจให้กับสเตลล่าและเพื่อนๆ ไม่นานนัก เธอก็เริ่มค้นพบว่า เมื่อใดก็ตามที่หนังสือของซาร่าห์ เบลโลวส์ เริ่มเขียนเรื่องราวสยองขวัญ เมื่อนั้น “ชื่อ” ของคนที่ถูกระบุขึ้น จะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับในเรื่องเล่านั้น สเตลล่าจึงต้องหาหนทางหยุดยั้งเหตุการณ์ดังกล่าวก่อนที่เพื่อนของเธอจะหายตัวไปทีละคน

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่บรรดาที่ปีศาจต่างๆในจินตนาการของแต่ละเรื่องเล่าได้ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อสร้างความตื่นเต้นตกใจ แต่หนังเรื่องนี้ยังเป็นการอุปมาอุปมัยในทางอ้อมที่ว่าด้วยเรื่องเล่าของ “ซาร่าห์ เบลโลวส์” ที่ถูกทารุณกรรมโดยครอบครัวของตัวเองและความคลั่งแค้นทำให้เธอมีพลังอำนาจในการดลบันดาลให้ครอบครัวของเธอเองมีอันเป็นไปตามเรื่องเล่าที่เธอเขียนขึ้นมา ดูหนังออนไลน์

ปีที่ฉาย : 2019

เวลา : 1.47 ชั่วโมง

IMDb: 6.2 / 10

การดำเนินเรื่อง

หนังเริ่มเรื่องด้วยการย้อนกลับไปอเมริกาในช่วงยุคสงครามเวียดนาม เป็นการเปิดเรื่องดูฉงนสนเท่ห์กับคนดูว่าทำไมถึงเลือกย้อนกลับมาในยุคที่ไกลแบบนี้ แต่นี่แหละคือหนึ่งในสไตล์ของ กีเยร์โม เดล โตโร ที่ชอบทำหนังย้อนกลับไปช่วงยุคสงครามที่มีการขัดแย้งของสังคมโลก และดึงเอาเรื่องราวส่วนนี้มาเล่นกับตัวละครในเรื่องทางใดทางหนึ่ง ซึ่งกับ Pan’s Labyrinth ก็คือยุคนาซีล่าล้างเผ่าพันธ์ยิว ส่วน Scary Stories นี้ก็คือกระแสต่อต้านสงคราม กรณีรัฐบาลส่งหนุ่มวัยรุ่นอเมริกันไปเป็นทหารในสงครามเวียดนาม ซึ่งก็คือการส่งไปตายดีๆ นี่เอง เราจะเห็นประเด็นประวัติศาสตร์การเมืองในยุคนั้นสอดแทรกเป็นระยะไปจนจบ ซึ่งไม่ใช่แค่ใส่มาเล่นๆ แต่มันคือส่วนหนึ่งของเรื่องราว และกลายมาเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่สร้างมอนสเตอร์ไฮไลท์ของเรื่องนี้ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ถึงขั้นสุดยอดแบบตัวประหลาดใน Pan’s Labyrinth แต่ก็เรียกได้ว่าน่าจดจำน้องๆ เรื่องนั้นเลยทีเดียว

รีวิว Scary Stories to Tell in the Dark

องต์ประกอบแทบทั้งเรื่องนี่เป็นหนังที่ครีเอทมาเพื่อ กีเยร์โม เดล โตโร โดยตรง (แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้กำกับ) หนังได้ความสยองแบบมีชั้นเชิงไต่ระดับพิสดารขึ้นเรื่อยๆ จากเรื่องราวของหุ่นไล่กาปีศาจ ที่เป็นอะไรที่ครีเอทมากตั้งแต่เรื่องแรก ตามมาด้วยผีนิ้วขาดชวนอ๊วก ตุ่มแดงสยองขวัญ ห้องแดงสุดหลอน ทั้งหมดถูกเล่าอย่างมีชั้นเชิงสนุกน่าติดตาม ซึ่งเอาจริงๆ อยากให้ขยายไปทำเป็นซีรีส์เลยน่าจะดีกว่ามาก เพราะนิทานแต่ละเรื่องมีความสยองเป็นเอกลักษณ์ดีไม่แพ้กัน หนังทำให้เราได้ลุ้นติดตามไปว่าเรื่องเล่าในแต่ละคืนจะเป็นยังไง ผ่านกลุ่มตัวเอกที่ถือหนังสือนิทานที่เขียนตัวเองได้ แม้ว่าความสยองหรือแหวะจะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็เป็นอะไรที่แบบอุทานในใจว่า เฮ้ย เจ๋งว่ะ! ได้ตั้งแต่เรื่องแรก ซึ่งถ้าใครชอบหนังสยองขวัญสไตล์ไม่แหวะ อันนี้ดูได้เลย หนังทำได้พอดีๆ กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย (อเมริกาได้เรต PG13) ไม่หลอกเด็กมาร้องไห้จ้ากลางโรงแบบ Pan’s Labyrinth ซึ่งอันนี้เป็นอะไรที่โหดร้ายมากๆ แม้จะเป็นผู้ใหญ่ดูก็ตามที

นอกจากเรื่องเล่าที่ปรุงแต่งมาอย่างดีแล้ว หนังก็ยังได้ดาราเด็กวัยรุ่นที่เหมาะเจาะลงตัว ทุกคาแรกเตอร์น่าจดจำ และแอบมีเรื่องราวรักวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กสอดแทรกไว้ได้อย่างลงตัวพอดี ดูๆ ไปตอนแรกก็แอบคิดถึง Stranger Things อยู่เหมือนกันเพราะองค์ประกอบครบสูตรก๊วนเด็กซ่า ท้าสู้สิ่งที่เหนือธรรมชาติเหมือนกันไม่มีผิด แต่ต่างตรงที่ว่าเรื่องนี้เล่นกันถึงตาย ไม่ได้ปราณีแบบเรื่องราวใน Stranger Things ซึ่งถ้าใครชอบบรรยากาศ เรื่องเล่านิทาน ผีสางรวมถึงมอนสเตอร์ ก็ฟันธงได้เลยว่าต้องชอบเรื่องนี้ไม่มากไม่น้อยไปแน่นอนครับ! หนัง4k

รีวิว Scary Stories to Tell in the Dark (2019) คืนนี้มีสยอง

ถ้าหากใครกำลังเบื่อๆอยากที่จะหาหนังสยองขวัญสักเรื่องมาดูแก้เซ็งกลางดึกในคืนพักผ่อน อยากแนะนำให้ลองหาหนังผี “Scary Stories to Tell in the Dark” มารับชมรับรองว่าจะช่วยแก้เบื่อได้พอสมควรเลยทีเดียว แต่ถ้าหากใครยังไม่มั่นใจว่าหนังผี Scary Stories to Tell in the Dark จะน่าสนใจหรือเปล่าลองมาฟังรีวิว แบบไม่สปอยจากบทความชิ้นนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจกันได้เลย

หลังจากถูกปีศาจรายแรกจู่โจม โทนเรื่องก็เริ่มเดินหน้าในแนวลึกลับปริศนา กับการสืบหาประวัติของซาราห์หาข้อเท็จจริงว่าแท้จริงแล้วเธอวิกลจริตตามตำนานจริงหรือไม่ แล้วจุดประสงค์ของเธอคืออะไร ตัดสลับกับฉากสยองที่ปีศาจตัวถัดไปทยอยออกมา โทนหนังเข้มข้นขึ้นพอกับเวลาที่น้อยลงที่แก๊งเพื่อนรักต้องรีบคลี่คลายปริศนาให้ได้ทันก่อนที่เรื่องต่อไปจะมาถึงคิวพวกเขา

“เรื่องเล่าเป็นทั้งอำนาจ และเป็นหนทางในการเยียวยาตัวเอง” คือวรรคทองที่ปรากฏอยู่ในเรื่องและถูกเอ่ยถึงหลายครั้ง เราจะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่หนังสือของซาร่าห์ถูกเขียนเรื่องราวขึ้นจะต้องมีคนบาดเจ็บ ล้มตาย หรือหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งการใช้วิธีการอันรุนแรงของซาร่าห์ (ที่เป็นวิญญาณหรือความชั่วร้าย) นั้นก็เปรียบเสมือนวิธีการเยียวยาตัวเองของเธอเช่นกัน (ปลดแอกความแค้นที่คนอื่นทำร้ายเธอ ด้วยการทำร้ายคนอื่นกลับ)

เมื่อเราลองพิจารณาบริบทฉากหลังที่ว่าด้วยสงครามเวียดนามที่กำลังคุกกรุ่น บรรดาคนหนุ่มสาวอเมริกาถูกส่งไปรบในสงครามดังกล่าวอย่างไร้เหตุผล เพียงเพราะความต้องการแสวงหาอำนาจและทรัพยากรทางธรรมชาติของรัฐบาล ไม่ต่างอะไรจากการใช้ “อำนาจมืด” ของซาร่าห์ ต่างก็เพียงแต่ “สงคราม” ไม่ใช่วิธีการเยียวตัวเองของมนุษย์

รีวิว คืนนี้มีสยอง

ด้วยเหตุที่ต้นฉบับเป็นนิยายสำหรับเด็กและเยาวชนหนังก็เลยได้เรต PG-13 ซึ่งดูขัดกับภาพที่ได้เห็นจากตัวอย่างหนังอย่างมาก เพราะในตัวอย่างนั้นอัดแน่นไปด้วยปีศาจน่ากลัวหลายตัว แต่พอเห็นเรตก็นึกสงสัยว่าแล้วหนังจริงมันจะน่ากลัวหรือ แต่พอได้ดูแล้วก็ยอมรับได้ว่า PG-13 ก็ทำเอาลุ้นเกร็งไปได้เหมือนกัน ต้องยอมรับว่าทีมงานมีไอเดียในการเรียงร้อยแต่ละเรื่องสั้นของอัลวินได้อย่างฉลาด ด้วยการเขียนเรื่องราวใหม่มาครอบเพื่อโยงใยแต่ละเรื่องสั้นเข้าหากัน โดยคงภาพลักษณ์ของปีศาจจากไอเดียของอัลวิน ชวาร์ต และ สตีเฟน แกมเมล ไว้ ปีศาจแต่ละตัวโผล่มาแค่ไม่กี่นาที แต่ทุกครั้งที่เป็นฉากขนหัวลุก ผู้กำกับอันเดร ก็คงมาตรฐานของบรรยากาศหนังสยองขวัญได้ครบถ้วน มีทั้งโผล่มาแวบ ๆ ฉากเงียบเคลื่อนกล้องช้า ๆ ให้ลุ้นว่าอะไรจะโผล่มา และตุ้งแช่พอประมาณ แต่เส้นจำกัดของ PG-13 ก็มีในจังหวะที่ปีศาจจัดการเหยื่อด้วยวิธีการที่ไม่รุนแรงเท่าบรรดาหนังเชือด ไม่มีเลือดให้เห็น ไร้ฉากแหวะ รุนแรงสุดที่เห็นในเรื่องนี้ก็คือฉากหักคอเหยื่อ

ปีศาจทั้ง 4 ตัวคือสีสันของหนัง หุ่นไล่กาแฮร์โรลด์ ต่อให้ไม่ลุกมาเดินได้ก็โคตรน่ากลัวแล้ว , ปีศาจกูลตามหานิ้วเท้า ตัวนี้น่ากลัวสุด , ผู้หญิงผิวซีด ตัวนี้ออกแบบหน้าตาฉีกยิ้มดูน่ารักไปหน่อย และ รายที่ดุสุดโหดสุดก็คือ The Jangly Man ผีร่างหลุด เป็นปีศาจตัวเดียวที่ทีมงานออกแบบขึ้นมาเอง จุดเด่นของ The Jangly Man คือมาจากซากศพที่โดนหั่นเป็นชิ้น ๆ คอ ตัว แขน ขา แล้ววิ่งเข้าหากันประกอบเป็นร่าง แต่เป็นตัวที่ผิดรูปผิดร่าง หงายท้องยืนสี่ขาเหมือนหมาแล้ววิ่งเข้าหาเหยื่อ ใครดูฉากนี้ก็ต้องเข้าใจว่าทีมงานใช้เทคนิค CG สร้างภาพ The Jangly Man ขึ้นมา แต่ที่จริงแล้วใช้คนแสดงจริง และคนนั้นก็คือ ทรอย เจมส์ นักกายกรรมดัดตน ที่สามารถหงายท้องแล้วเดินสี่ขาได้จริง เขาเคยสร้างความฮือฮามาแล้วในรายการ America’s Got Talent ดูหนังออนไลน์4k

เรื่องย่อ Scary Stories to Tell in the Dark (2019)

เรื่องราวของหนังผี Scary Stories to Tell in the Dark เริ่มต้นขึ้นในเมือง มิลล์ วัลย์ รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลุ่มวัยรุ่นที่นำโดยเด็กสาวที่อยากเป็นนักเขียน “สเตลล่า” พากันเข้าไปในคฤหาสน์ร้างของตระกูลเจ้าของโรงงานทำกระดาษ Bellows ที่ลือกันว่าได้ทำการกักขังลูกสาวคนเล็ก “ซาราห์” เอาไว้โดยไม่ยอมให้ออกไปไหน และถ้าหากมีเด็กคนไหนมาขอให้เธอเล่าเรื่องผีให้ฟัง เธอก็จะเล่าเรื่องราวที่น่าสยดสยองลอดผ่านกำแพงของบ้านให้ตามที่ขอ บวกกับเกิดคดีเด็กหายตัวอย่างเป็นปริศนาในเมืองเล็กๆแห่งนี้หลายรายทำให้ยิ่งลือกันให้แซ่ดว่าเป็นฝีมือของหญิงสาวที่ถูกกักขัง เรื่องราวเหล่านี้กระตุ้นต่อมความอยากผจญภัยของสเตลล่าและผองเพื่อนเป็นอย่างมาก ในขณะที่ทำการสำรวจคฤหาสน์ร้างเธอก็ได้พบกับ “หนังสือนิทานของซาราห์” และนำมันกลับมาด้วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าการทำเช่นนั้น เป็นการปลุกจิตวิญญาณของซาราห์ให้ฟื้นคืนกลับมาในโลกใบนี้พร้อมกับนำพาความสยองขวัญมาด้วย

Rating.
IMDb.com: 6.2/10
Rotten Tomatoes: 77% | Audience score: 72%

Movie Info
วันที่ออกฉาย : August 7, 2019
ความยาวหนัง : 1h 48min
ประเภท : Adventure, Horror, Mystery
ผู้กำกับ : André Øvredal
นักแสดงนำ : Zoe Margaret Colletti, Michael Garza, Gabriel Rush , +more

 

สรุปโดยรวม Scary Stories to Tell in the Dark (2019)

ความชั่วร้ายของผีสางยังสามารถยุติลงได้ เมื่อมันได้ “วาง” ความคลั่งแค้นลง แต่ความกระหายในอำนาจ ทรัพย์สิน เงินทองของมนุษย์นั้นไม่ได้ยุติลงง่ายๆ ดังที่เราได้เห็นจากฉากสุดท้ายของเรื่องที่ตัวละครอย่างราโมน (ไมเคิล กาซ่า) คนหนุ่มที่เคยหนีทหารมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ยังคงต้องกลับไปร่วมสงครามเวียดนามอยู่ดี หรือบรรดาเพื่อนที่หายตัวไปของสเตลล่าก็ยังคงสาบสูญ สะท้อนให้เห็นว่า ถึงอำนาจมืดจะหมดไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวเลวร้ายนั้นจะหายไปจากชีวิตประจำวันของเราเช่นกัน รีวิวหนังผี

สรุป

โดยส่วนตัวของผู้เขียนมองว่าหนังผี Scary Stories to Tell in the Dark เป็นหนึ่งในหนังผีที่น่าสนใจ สามารถดูแก้เบื่อได้จนจบเรื่อง แม้ว่าในบางจุดที่พยายามเสริมความน่ากลัวมากเข้าไปจะเกินงามไปสักหน่อย กับการดำเนินเรื่องราวที่ตัดไปมาค่อนข้างรวดเร็วทำให้คนที่ไม่ตั้งใจชมให้ดีอาจพลาดความสัมพันธ์กับตัวละครไปสักหน่อย และการแสดงที่ค่อนข้างดูแข็งไปสักนิดเมื่อเทียบกับหนังการเผชิญหน้ากับภูตผีของกลุ่มเด็กในวัยใกล้เคียงกันอย่างเรื่อง IT แต่รับรองว่าในส่วนของ CG ที่เนียนเน้นเล่นกับความสยองนั้น หนังผี Scary Stories to Tell in the Dark ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ทำให้หนังผี Scary Stories to Tell in the Dark เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากเชียร์ให้หามาชมสักครั้ง หรือใส่ไว้ในรายชื่อของหนังผีแก้เบื่อก็ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

6.2/10