รีวิว SLR กล้อง ติด ตาย
มาต่อคิวกันด้วยอีกหนึ่งหนังไทย ที่เดี๋ยวนี้เสิร์ฟต่อเนื่องกันทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ล่าสุดติดเทรนด์ฮอตตั้งแต่วันแรกกับ #ชวนดูSLRฉายวันแรก ที่เป็นการปรับโหมดมาสู่ความสะพรึงกลัวในหนังที่ดูเบื้องต้นแล้ว อาจจะรู้สึกซ้ำซากจำเจ กับ “SLR กล้อง ติด ตาย” แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่า อย่าเพิ่งตัดสินหนังจากเพียงแค่ตัวอย่างและใบปิดหนังเลย เพราะจะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้ที่ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไปสุด ๆ ปนเปอารมณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็พอที่จะเป็นหนังผีไทยที่แตกต่างและพอจะพาไปไหนมาไหนด้วยได้อยู่ รีวิว SLR กล้อง ติด ตาย รีวิวหนังผี ดูหนังเถื่อน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
SLR กล้อง ติด ตาย เป็นเรื่องราวของ แดน นักศึกษาหนุ่มคณะภาพถ่าย ที่สอบธีสิสกับอาจารย์เอมมาเป็นปีแล้ว แต่ยังไม่ผ่านเสียที จนในที่สุด อาจารย์เอมได้ให้กล้อง SLR ให้ถ่ายงานที่ดีที่สุดมาส่ง แดนกำลังจะค้นพบว่า มันเป็นบททดสอบของกล้องปีศาจ ซึ่งเขาไม่มีทางหนี นอกจากจะต้องเลือกว่าจะยอมตามมัน หรือจะสู้กับมัน และเขากำลังจะลากแฟนและเพื่อนของเขาอย่าง น้ำ และ เกรท เข้ามาร่วมชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งรายล้อมไปด้วยความตายจากกล้องนรกนี้ด้วย
ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของ 2 ผู้กำกับหนุ่มรุ่นใหม่ “เลิศศิริ บุญมี” กับ “วุฒิชัย วงศ์นภดล” ที่พวกเขาแทบจะยังไม่มีชื่ออยู่ในวงการหนังไทยหรอก แต่ก็นับว่าเป็นการประเดิมเดบิวต์ผลงานเรื่องนี้ได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะส่วนหนึ่งเป็นการปลุกปั้นผลักดันของผู้กำกับมือฉมัง “โขม ก้องเกียรติ” ที่มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและที่ปรึกษาให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย เมื่อได้ครูที่ดี ผลงานออกมาจึงออกมาได้ในระดับที่พอถูไถไปได้
SLR กล้อง ติด ตาย ที่ถ้าใครได้เห็นทีเซอร์ แน่นอนว่าจะต้องพาให้นึกไปถึงหนังไทยในตำนานอย่าง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ อะไรประมาณนั้นใช่ไหม? แต่บอกไว้เลยว่า…หนังเรื่องนี้แตกต่างจากทิศทางนั้นอย่างสิ้นเชิง เดินกันคนละทาง และมีคอนเซ็ปต์คนละแบบ เพียงแค่ใช้วิชาการถ่ายรูปเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนกันเพียงเท่านั้น โดยหนังเรื่องนี้มีแก่นเรื่องและจุดประสงค์ที่ค่อนข้างแข็งแรงและชัดเจนดี
ถึงแม้ว่าบทหนังจะยังคงค่อนสะเปะสะปะ ติดอยู่กับปัญหาจุดเดิม ๆ ของหนังไทยที่ยังแก้ไม่หาย บทหนังที่มีแก่นเรื่องหนักแน่นดี แต่ยังไม่กลมกล่อม และใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ยังไม่มีกิมมิกลูกเล่นอะไรที่ดึงดูดความสนใจได้มากเท่าไหร่ เพราะดันไปติดกลิ่นอายความเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำของฝั่งฮอลลิวูดมาปนเปเอาไว้รายทาง จึงพลอยทำให้หนังเกือบ 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ มีจังหวะที่ดีปะปนไปกับจังหวะที่ยังไม่ดี
บอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่อะไรที่คาดเดาได้ยากเลย ทุกอย่างปูทางและเปิดทางเอาไว้ให้คนดูกระจ่างตั้งแต่ตอนปูเรื่อง พอจะคาดถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ยากเย็นหนัก แต่การหยิบเอาประเด็นความเชื่อที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน แหวกแนวไปจากหนังผีไทยเดิม ๆ ตรงจุดนี้ต้องชื่นชมในกล้าหาญของหนังเรื่องนี้ เพราะนี่อาจจะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างไกลตัวคนไทย และอาจจะทำให้คนดูไม่รู้สึกคล้อยตามไปด้วยซ้ำ แต่ถือว่าผู้สร้างมีจุดยืนในเจตนานี้ด้วยดี และได้ปรุงแต่งรสชาติออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่กับวงการหนังไทย แต่ยังธรรมดา ๆ ไปเหมือนเทียบกับแวดวงหนังสากล
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้รู้สึกประทับใจใน SLR กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบงานสร้างและดีไซน์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนัง โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ทั้งฉากที่รู้สึกพิถีพิถันและแปลกตาจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ดี การออกแบบมุมกล้องและแสงสีที่ใช้หนังเรื่องนี้ ผสมด้วยความเป็นหนังลึกลับอินดี้แบบฝรั่งหน่อย ๆ เข้าไป เป็นจุดเล็กน้อยที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าจังหวะในการเล่าเรื่องของหนังจะค่อนข้างโดดไปมา และพลอยทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องอยู่เนือง ๆ บ่อยก็ตาม
อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิธีการเล่าเรื่องในหนัง SLR กล้อง ติด ตาย ยังไม่ใช่สิ่งที่โปรดปรานโดยส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก หนังยังมีจุดขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ความพยายามที่จะกระตุกขวัญผู้ชมด้วยมุกเดิม ๆ อาจจะเป็นการสร้างความน่ารำคาญ หรือความสุดโต่งในการถ่ายทอดเรื่องราว ที่ยอมรับว่าเกือบจะไปได้สุด แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนังยังเก้กังติดอยู่กลางทางอยู่บ้าง เป็นองค์ประกอบที่น่าเสียดาย ที่ตรงจุดนี้หนังยังไม่สามารถซื้อใจไปได้
ขณะที่นักแสดงของ SLR กล้อง ติด ตาย ก็ถือว่าใช้งานนักแสดงเจนใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพทุกคน ไม่ว่าจะ “นนท กรภัทร์”, “เฌอปราง BNK48” หรือ “นนท์ ศดานนท์” พวกเขาทุ่มเทถ่ายทำบทบาทของตัวเองในหนังเรื่องนี้ได้เต็มที่ และหนังก็สามารถเกลี่ยบทให้กับทุกตัวละครนำได้ค่อนข้างดีใช้ได้ เพียงแต่มิติของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ เหล่านั้นยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากแค่หนุ่มสาว 3 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวบนความเชื่อของพวกเขา ทั้งที่น่าจะสามารถเค้นออกมาได้มากกว่านี้ แต่ก็เหมือนว่าการแสดงยังอยู่ในจุดเซฟโซนไปสักหน่อย
ว่ากันว่า ปี 2565 วงการหนังไทยจะรุกตลาดกับกระแสจักรวาลหนังมอนสเตอร์ไทย ๆ ชุดใหญ่ แต่คงต้องบอกว่า SLR กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะถูกยังอยู่ในจักรวาลนั้นไปด้วยเรื่องหนึ่งแล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่เป็นหนังผี แต่ยังใส่ความสัตว์ประหลาดเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างแยบยล ถึงได้บอกว่าเป็นความทะเยอทะยานที่ไม่ค่อยจะเคยเห็นในวงการหนังไทยมาก่อน มันเป็นการพัฒนาที่ดี เพียงแต่ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกกว่านี้ แต่ก็นับว่าหนังไทยเรื่องนี้พยายามมาได้ค่อนข้างถูกทางในระดับหนึ่งแล้ว…
ที่จริงแล้วแม้ตัวหนังจะมีเมนผมตลอดกาลอย่างเฌอปราง (จริงๆ นะ…) แสดงนำ แต่ผมก็ยอมรับว่าเผื่อใจกับหนังไว้ประมาณหนึ่งว่ามันอาจจะออกมาเละเทะก็ได้ เพราะต้องยอมรับว่าหน้าหนังมันไม่ได้ดูดึงดูดนัก แถมการชูนักแสดงหลักซึ่งส่วนใหญ่เป็นไอคอนของวัยรุ่นยุคใหม่ มันก็ดูจะทำให้หน้าหนังลดความขลังบางอย่างลงอย่างไม่อาจอธิบายได้
อย่างไรก็ตามก็ต้องบอกว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้สามารถสอบผ่านฉลุยในบทบาทตัวเองได้อย่างน่าจับตา โดยเฉพาะ นนน ตัวเอกของเรื่องที่ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์กับการแสดงออกทางสีหน้าของเจ้าตัวที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังรู้สึกชื่นชมตัวโปรเจกต์นี้ที่พยายามพาหนังสยองขวัญไทยไปในทิศทางใหม่ๆ ที่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ หาที่ทางของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ ถึงแม้หลายๆ อย่างจะยังดูขาดๆ เกินๆ ไม่น้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าสิ่งที่ SLR พยายามจะพิสูจน์ตัวเองและไปให้ถึง มันควรค่าต่อการปรบมือในตอนท้าย ทั้งยังเป็นอะไรที่วงการหนังสยองบ้านเราต้องการในโมงยามนี้จริงๆ
SLR เล่าเรื่องของกลุ่มช่างภาพและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไฟแรง ที่อยากได้ทุนไปทำงานกันที่นิวยอร์ค แต่ติดที่ว่า “แดน” หนึ่งในสมาชิกและเป็นช่างภาพหลักนั้นยังเรียนไม่จบและไม่มีทุนตามเพื่อนไป เขาจึงต้องพยายามทำโปรเจกต์กับ “อาจารย์เอม” ให้ผ่าน เพื่อให้ได้ทุนที่ต้องการ โดยที่เขาไม่อาจรู้เลยว่าสิ่งที่อาจารย์เอมมอบหมายให้ทำกับการนำกล้องฟิล์มไปถ่ายคน 7 คนในระยะเวลา 14 วันจะทำให้ชีวิตเขาต้องพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน
จะว่ายังไงดี… ผมว่า SLR มีส่วนผสมของหนังสยองขวัญหลายๆ แบบ และมีความพยายามจะเป็นสากลอยู่ในตัว ตัวหนังเปิดอย่างหนังผีไทย ก่อนจะกลายเป็น Conjuring และจบด้วยการหักศอกเป็น Ghostbuster ซึ่งผมว่ามันเจ๋งมาก ถึงแม้จะรู้สึกไม่สุดในบางช่วง แต่ก็ชอบที่มันมาเวย์นี้มากกว่าจะเพลย์เซฟ เป็นความใหม่ที่ผมคงโหยหาอยู่กระมัง แบบว่าหนังสยองไทยที่มีสำเนียงฝรั่งจ๋าแบบนี้ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยๆ
ตัวบทอาจดูล้นๆ เจ๋งบ้างบ้งบ้าง แต่งานภาพและการใช้สีสันสื่ออารมณ์นี่เข้าท่าเลย ในขณะที่งานซาวด์งานเสียงก็รู้สึกว่ามันดังไปสักหน่อย แต่ก็ช่วยเสริมรับกับเรื่องได้อย่างดี มันอาจฟังแปร่งๆ สำหรับบางคน แต่ส่วนตัวแล้วผมค่อนไปทางชอบแฮะ
กลุ่มนักแสดงที่ตอนแรกดูจะเป็นจุดอ่อนของเรื่องที่สุด กลับกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของเรื่อง เคมีอาจยังดูไม่เข้ากันในที และอาจต้องใช้เวลาจูนกันอีกนิด แต่บทบาทส่วนตัวของแต่ละคนทำออกมาได้ดีและเกินคาดมาก โดยเฉพาะ นนน ที่ระเบิดฟอร์มอย่างเด่นชัด กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงน่าจับตาไปโดยปริยาย
ในขณะที่มายเมนเฌอปรางมีพัฒนาการจากตอน Homestay ได้อย่างน่าดูชม เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังทั้งเรื่อง แต่ชอบเป็นพิเศษคงเป็นช่วงแรกของเรื่องที่แสดงความเป็นคาแรคเตอร์ของสาวขี้เล่นขี้หยอดได้น่ารักมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยได้เห็นเลยเวลาเธออยู่ในวง รู้สึกตกหลุมรักขึ้นมาอีกรอบเลย
แม้ว่า SLR จะโปะหน้าว่าเป็นหนังสยองขวัญ และมีจัมป์สแกร์เป็นบางช่วง แต่ส่วนตัวรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้เอาตายขนาดนั้น จริตของมันไปทางหนังสยองตะวันตกมากกว่า มีการพูดถึงความเชื่อ การบูชาซาตาน
หนังยังดึงอารมณ์ได้ไม่สุด และคล้ายว่าจะยังสับสนในความทีเล่นทีจริงของตัวเองอยู่สักหน่อย จะซีเรียสก็ไม่ถึง จะแฟนตาซีจัดจ้านก็ไม่ใช่ ถ้าหากหนังเลือกจะไปสุดในสักทางคงดีกว่านี้ แต่แม้จะเป็นแบบนั้นแก่นหลักและสิ่งที่ตัวหนังพยายามจะเป็นมันก็น่าสนใจอยู่ดี อยากให้ได้ลองมาลิ้มรสชาติใหม่นี้กันดูในโรงภาพยนตร์ครับ
อย่างไรก็ตาม โดยรวม “SLR กล้อง ติด ตาย” ก็ออกมาดีเกินค่าเฉลี่ยหนังไทยมากอยู่ ไม่ได้ชอบแต่เชียร์ เพราะถือว่าแปลกใหม่ กล้าเล่นกล้าลอง โปรดักชั่นและซีจีถือว่าผ่าน ภาพสวย แต่ภาพสยองก็สยองแบบแหวะไปเลย ไม่แนะนำสำหรับคนขวัญอ่อนเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นแฟน ๆ นักแสดงนำ หรือเป็นนักดูหนังที่อยากสนับสนุนหนังไทยสักเรื่อง เราคิดว่า “SLR กล้อง ติด ตาย” ควรค่าที่จะได้รับแรงสนับสนุนนั้น