รีวิวหนังผี Kingdom: Ashin of the North

รีวิวหนังผี Kingdom: Ashin of the North

ดูหนังเถื่อน เรื่องย่อ: การปรากฏตัวของสตรีลึกลับหลังสงครามชิงบัลลังก์โชซอนจบลงในซีรีส์ซีซัน 2 กำลังได้รับการเปิดเผยปูมหลังในหนังเรื่องนี้ ซึ่งยังเฉลยที่มาของดอกไม้ชุบชีวิตคนที่ทำให้เกิดคนตายเดินดินระบาดไปทั่วอาณาจักรโชซอนด้วย รีวิวหนังผี Kingdom: Ashin of the North รีวิวหนังผี

เว็บดูหนังเถื่อน หลังความประหลาดใจในตอนจบของซีซันที่ 2 ซึ่งเผยหน้าของดาราดังอย่าง จอนจีฮยอน หรือ ยัยตัวร้าย จากหนัง ‘My Sassy Girl’ ที่ห่างหายจากวงการไปนานหลายปี มาปรากฏตัวเป็นตัวละครใหม่ที่ใบ้ว่าเป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดด้วย

หนังฟรี กระแสความตื่นเต้นที่จะได้ชมเรื่องราวซีซันต่อไปของซีัรีส์ ‘Kingdom’ ก็ยิ่งทวีคูณไปอีก แต่จะทำอย่างไรเมื่อกระบวนการถ่ายทำย่อมยากขึ้นใช้เวลานานขึ้น เมื่อสเกลเรื่องราวใหญ่โตจากสงครามเมืองชายแดน กลายเป็นสงครามกลางเมืองหลวง ดูหนัง และกำลังกลายเป็นสงครามปกป้องอาณาจักร ดูหนังออนไลน์ แฟนซีรีส์จะทนอดใจรอได้นานเกิน 1-2 ปีได้หรือไม่ นี่เป็นโจทย์ที่ทีมงานอาจขอคั่นด้วยหนังที่จะขยายความเข้าใจจักรวาลของซีรีส์ได้ไปพร้อมกัน หนังใหม่

ดูหนังฟรี เรื่องราวของหนังจับใจความย้อนไปเป็นเป็นเวลาหลายปีก่อนเหตุการณ์ในซีรีส์ ณ ชายแดนตอนเหนือของโชซอนที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนหนี่ว์เจินที่รวมเป็นประเทศที่ชื่อ พาจอวี ดังนั้นกองทัพโชซอนซึ่งนำโดยรองแม่ทัพ มินจีรก ผู้อุทิศตนเพื่อชาติซึ่งเคยปรากฏตัวในซีรีส์มาก่อนแล้ว ดูหนังออนไลน์ จึงอาศัยชนกลุ่มน้อยของหนี่ว์เจินกลุ่มหนึ่งที่อยู่คั่นกลางคอยเป็นไส้ศึกเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของพาจอวีโดยเสนอจะช่วยให้ได้เป็นข้าราชการของโชซอนต่อไป แต่เมื่อเกิดเหตุบางอย่างในเขตป่าลึกของโชซอนทำให้ชาวพาจอวีตายหลายคน โดยทหารโชซอนอ้างว่าเป็นการกระทำของเสือร้าย ก็กลับยิ่งสร้างความสงสัยของพาจอวีจนเสี่ยงจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามขึ้น ดูหนัง

รีวิวหนังผี Kingdom: Ashin of the North

จอนจีฮยอนรับบทเป็น อาชิน ตัวหลักของเรื่องที่วัยเด็กของเธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยหนี่ว์เจิน โดยพ่อของเธอเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยรายงานโชซอนอยู่เสมอ นอกจากนั้นเธอยังได้ค้นพบดอกไม้ต้องห้ามที่ซุกซ่อนไว้ในป่าลึกพร้อมสลักคำเตือนว่า ดอกไม้นี้ชุบชีวิตคนตายได้ หากแต่ต้องรับผลในสิ่งที่ตามมา และหลังจากหมู่บ้านของเธอตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของพาจอวีและโชซอน อาชินจึงระเหเร่ร่อนมาขอให้รองแม่ทัพโชซอนมินจีรกซึ่งแสดงโดยดาราคุณภาพอีกคนอย่าง พักบยองอึน นั้นช่วยล้างแค้นให้พ่อของเธอ แลกกับการที่เธอจะสอดแนมพาจอวีให้

ต้องยอมใจในความเก่งในบทหนังของ คิมอึนฮี ที่สามารถใช้ตัวละครมินจีรกที่เราเคยรู้จักมาพลิกแง่มุมการนำเสนอว่าความรักชาติอาจไม่ได้มีเพียงมุมที่สวยงาม และยังทำให้ตัวอาชินนั้นยิ่งมีปมความขัดแย้งที่น่าสนใจน่าเห็นใจขึ้นไปอีก ไม่เพียงแต่ในหนังเรื่องนี้ แต่ยังโยงไปถึงความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ของตัวละครนี้ในซีรีส์ซีซัน 3 กับพวกกลุ่มตัวเอกด้วย และผู้ชมอาจต้องเอาใจช่วยทั้งสองฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกันเลยทีเดียว นี่คือความสุดยอดที่สุดในบทอันย้อนแย้งแทงทะลวงอารมณ์ความคิดของผู้ชม

ด้านโปรดักชันยอมรับว่าผู้กำกับ คิมซองฮุน นั้นคุมซีรีส์สเกลใหญ่มาได้อย่างดีแล้ว พอมาทำเป็นหนังก็ยิ่งอยู่มือเข้าไปอีก เพราะเขาจับจุดเน้นได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งฉากใหญ่โตอลังการมากแต่คุมโทน ทำให้ผู้ชมดิ่งจมราวกับไปอยู่ในป่าชายแดนโชซอนได้อย่างอิ่มอารมณ์ มีฉากโชว์ มีฉากเน้นสวย คือประสบผลดีทั้งด้านสุนทรียะและด้านความบันเทิง

ยิ่งการเล่าเรื่องอันซับซ้อนมีการเมืองหลายฝักฝ่ายในพื้นที่เดียวที่มาจากปากกาของคิมอึนฮีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้เล่าเรื่องได้ง่าย แต่คิมซองฮุนกลับทำได้ดีทีเดียว และที่ชื่นชอบมาก ๆ คือการใช้กิมมิกสิ่งของอย่างเช่น ธนูที่นางเอกเคยเห็นก็เฉลยเรื่องราวบางอย่างได้ ทำให้หนังมีความลื่นไหลและเท่ในการเล่าเรื่องด้วย

รีวิวหนังผี Kingdom: Ashin of the North

หนังยังสนองรสความอยากเห็นของผู้ชมได้ดี เพราะถ้าเล่ากันเพียงเรื่องการเมืองของคนเข้มข้นมันคงหนักไปเสียทุกส่วน มันจึงป้อนเราด้วยประสบการณ์หนังผจญภัยแบบหนังคนล่าเสือสมิง ไปจนถึงหนังล่าล้างแค้นของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยิ่งหนังปูดราม่าความแค้นได้หนักหน่วงเท่าไหร่ ฉากตอนท้ายของเรื่องก็ยิ่งสุมไฟความมันได้มากเท่านั้น นี่คือความเก่งในเชิงดราม่าที่ชาติเกาหลีเขาชำนิชำนาญเป็นพิเศษทีเดียว

จุดติงที่พอเห็นได้ชัด ก็คงเป็นรอยแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตัวละครที่ทำจากซีจียังมีจุดลอยหลอกตาอยู่ ซึ่งหนังพยายามซ่อนด้วยการตัดต่อที่ไวอยู่แล้วแต่บางฉากที่แช่ภาพนาน ๆ ก็ไม่รอดเลย อาจเป็นความโชคร้ายของหนังที่เราเพิ่งได้ชมซอมบี้เสือเนี้ยบ ๆ ไปใน ‘Army of the Dead’ เมื่อไม่นานนี้จึงยังมีภาพเทียบชัดอยู่ นอกจากนี้อาจไม่ใช่ข้อติงที่ชัดเจนก็คือความน่าเสียดาย ที่หนังอาจยังใช้ความเป็นจอนจีฮยอนได้ไม่คุ้มนักเพราะแม้เธอจะมีคุณภาพการแสดงที่ดีแต่กว่าเธอจะได้ออกโรง ตัวละครก็พัฒนาไปเยอะจนมีคาแรกเตอร์หลักที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ไปแล้ว น่าเสียดายที่ได้เห็นการพัฒนาอารมณ์เชิงลึกด้วยฝีมือของเธอไม่มากนัก

ต้องยอมรับว่า ‘Kingdom: Ashin of the North’ ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีคิดที่ชาญฉลาดทั้งในด้านการเล่าเรื่องและการตลาด ศักยภาพของหนังยาวเรื่องนี้ไม่ได้เพียงมาคั่นรอระหว่างที่ซีรีส์ซีซันที่ 3 ยังไม่มาถึง เพื่อไม่ให้กระแสหายนานเกินไป หากแต่ในแง่การตลาดมันยังช่วยดึงดูดคนดูหน้าใหม่ที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ ไม่ดูตัวซีรีส์เพราะยังไม่มีเวลามากพอ ให้ลองชิมลางด้วยการดูหนังยาวชั่วโมงครึ่งที่อยู่ร่วมจักรวาลเดียวกันก่อนได้ และเชื่อเถอะว่าเบ็ดรสจัดจ้านเรื่องนี้ จะตกแฟนหน้าใหม่และบำเรอแฟนหน้าเก่าที่กำลังลงแดงได้อย่างอยู่หมัดทีเดียว

เทียบกับซีรีส์สองภาคก่อน Kingdom: Asin of the North มีความเป็นหนังดราม่ามากกว่าแอ็คชั่นซอมบี้ ถึงฉากแอคชั่นจะมีอยู่ไม่มากแต่ยังคงมาตราฐานที่ดีของภาคก่อนๆ ไว้ได้ และมีความหลากหลายทำให้ไม่น่าเบื่อ

ส่วนเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและสะท้อนการเมืองได้อย่างดียังคงเป็นจุดเด่นของตอนพิเศษนี้ เรื่องราวสะท้อนให้เห็นว่าเมื่อคนจากชนชั้นล่างสุดลุกขึ้นมาต่อสู้และพิพากษาทุกคนมันจะเป็นอย่างไรผ่านทางอาชินซึ่งเป็นตัวแทนของคนที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชาติพันธุ์เดียวกันอย่างหนีว์เจินที่อยู่ฝั่งพาจอวี หรือกลุ่มคนที่เธอภักดีอย่าโชซอน และสัญลักษณ์ต่างๆ ในเรื่อง

บ่อเกิดของหายนะคือการปกป้องผู้มีอำนาจและทำร้ายประชาชน

การปกป้องผู้มีอำนาจ และเพิกเฉยต่อความอยุติธรรม โดยเริ่มจากการที่ ‘แม่ทัพมินชีรก’ (พัคบยองอึน) โกหกเพื่อปกป้องกษัตริย์โจบอมอิลตระกูลแฮวอนโจที่ทอดทิ้งประชาชนและใช้อำนาจในทางมิชอบเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวซองจอยาอินโดนฆ่าและกลายเป็นปีศาจในท้ายที่สุด

ความภักดีจะไร้ค่าถ้ามอบให้ผิดคน

พ่อของอาชินภักดีต่อแผ่นดินโชซอนและราชวงศ์เพราะมีบุญคุณต่อกันมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ และยอมทำงานทุกอย่างตามสั่งเพื่อรอคอยที่จะได้รับเกียรติและการยอมรับเป็นรางวัล แต่เรื่องราวก็สะท้อนให้เห็นว่าหากภักดีต่อผู้ที่ไม่เห็นค่า จนวันตายรางวัลตอบแทนก็ไม่มีวันมาถึง

‘พวกเขาอาจมีน้ำใจต่อบรรพบุรุษของพวกเราก็จริง แต่บัดนี้พวกเขาทวงคืนทุกอย่างไปหมดแล้ว’ ประโยคง่ายๆ ที่อาชินพูดกับพ่อทำให้เห็นว่าบุญคุณที่มอบให้ก็หมดได้ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างทางความคิดของคนสองรุ่นที่เด็กๆ ได้เห็นว่าบุณคุณมีวันหมดได้ในขณะที่ผู้ใหญ่ยังติดอยู่กับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าบุญคุณต้องทดแทน และการอาศัยบารมีของผู้มีอำนาจนั้นเป็นส่ิงที่ปลอดภัยกว่า

และความภักดีอย่างไม่มีเงื่อนไขจะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างองอาจ ฉากนี้ยิ่งทำให้ฉากที่อาชินได้พบกับพ่อในวัยชราที่ร้องหาเพียงความตายน่าสะเทือนใจและทำให้เห็นว่าจุดจบของคนที่เลือกเข้าข้างผู้มีอำนาจมากกว่าความถูกต้องนั้น สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างไร้วิญญาณและศักดิ์ศรี

ประเด็นนี้แสดงอย่างชัดเจนผ่านฉากที่คอยย้ำอยู่เสมอว่า ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นซอมบี้นั้นพวกเขาเคยเป็นคนไม่ต่างกับคนทั่วไปที่คิดเพียงแต่เอาชีวิตรอด เพราะความอยุติธรรม อดอยากและหิวโหย บีบบังคับให้คนเห็นแก่ตัวจนขาดสติ คำที่พ่อของอาชินพูดไว้ว่า ‘สิ่งที่น่ากลัวกว่าพวกปีศาจคือทหาร’ จึงกลายเป็นเหมือนลางบอกเหตุ เพราะผู้ใช้อำนาจในทางมิชอบนั่นร้ายยิ่งกว่าปีศาจนั่นเอง

และสุดท้ายเมื่อเราดูจนจบเราก็จะพบคำตอบของคำถามว่า มันคือ ‘สมุนไพร’ หรือ ‘ใคร’ กันที่ทำให้คนกลายเป็นปีศาจ ชม Kingdom: Ashin of the North ได้ทาง Netflix

เรื่องราวย้อนไปถึงช่วงเวลาก่อนหน้าในซีรีส์ เมื่อทางตอนใต้ของเกาหลีถูกญี่ปุ่นรุกราน ทางเหนือแถบพาจอวีก็มีชนกลุ่มน้อยหนี่เจินเป็นหอกข้างแคร่ ทางการจึงใช้พวกหนี่เจินที่อยู่ในการปกครองของโชซอน และยังติดต่อกับพวกทางเหนือเป็นไส้ศึก ซึ่งตัวละครอาชินของจีฮยอนก็เป็นหนี่เจินกลุ่มนี้ ส่วนพ่อของเธอก็เป็นคนสืบข่าว ปั่นข่าว ให้โซชอน โดยอาชินรับรู้เรื่องราวสมุนไพรลึกลับ จากบันทึกในผนังถ้ำว่าสามารถปลุกชีวิตคนตายได้

แต่ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง และเธอเองก็อยากนำมารักษาแม่ที่ไม่สบาย แต่หลังจากพวกหนี่เจิน-พาจอวีมาตายในป่าต้องห้ามของโชซอน โดยทางโชซอนอ้างว่าโดนเสือทำร้ายและออกล่าเสือเป็นการใหญ่ ชีวิตของอาชินและผู้คนในหมู่บ้านก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกหนี่เจิน-พาจอวีบุกมาสังหารล้างหมู่บ้าน เธอหนีไปอาศัยอยู่กับกองทัพโชซอน และหวังว่าพวกเขาจะล้างแค้นให้ผู้คนของเธอ โดยตัวเองก็ทำงานอยู่ในกองทัพรวมทั้งเป็นสายสืบให้โชซอนเหมือนพ่อของเธอ

ด้วยความจริงบางอย่างที่อาชินค้นพบ ทำให้แผนการณ์ของเธอเปลี่ยนไป และนำไปสู่หายนะที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง รวมทั้งแผ่นดินโชซอนอย่างที่รู้กันในซีรีส์ Kingdom ทั้งสองฤดูฉาย

ผลลัพธ์จากการกระทำของอาชิน เป็นสิ่งที่รับรู้กันได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของหนังตอนก่อนทั้งหลาย หากความน่าสนใจอยู่ที่รายละเอียด และใน Kingdom – Ashin of the North ก็คลี่ลายหลายข้อสงสัย หรือบอกที่มาที่ไปของสมุนไพรหายนะเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ตลอดจนผู้คนและปมที่เป็นต้นเหตุ ซึ่งสรุปง่ายๆ ได้ว่า เป็นเพราะความแค้นนั่นเอง

เรื่องราวมีหักมุมเล็กน้อย กับเหตุการณ์ที่ทำให้อาชินตัดสินใจอย่างที่เห็น แม้จะไม่ถึงกับเป็นบิกเซอร์ไพรส์ แต่ก็หนักแน่นมากพอที่จะทำให้ตัวละครเปลี่ยนแปลงเป้าหมายในชีวิต ซึ่งรับกับสิ่งที่เป็นไปในซีรีส์ต้นฉบับได้อย่างลงตัว ในแง่ความบันเทิง เรื่องของความตื่นเต้น ระทึกขวัญ อาจไม่ถึงกับสุดทางนัก ด้วยความที่มีตัวละครหลักเพียงรายเดียว ทำให้เรื่องไม่ได้หลากหลายซับซ้อนนัก และไม่มีตัวละครรายอื่นให้ได้ทำความรู้จักหรือผูกพัน

เนื้อหาก็ว่ากันสั้นๆ ตรงๆ แถมที่ไปของอาชินก็รู้กันดีอยู่ แต่กับการแนะนำตัวละครรายนี้ให้ผู้ชมได้รู้จัก หนังให้ได้เยอะ โดยเฉพาะความโหดเหี้ยมอำมหิตของเธอ โดยเฉพาะการกลับมาบ้านเกิดอีกครั้งในตอนท้าย ตอกย้ำถึงความมืดในจิตใจของอาชินได้เป็นอย่างดี แล้วยังแสดงให้เห็นในเวลาเดียวกันว่า ท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์เรานั้นเป็นปีศาจยิ่งกว่า ร่างไร้ชีวิต เมื่อลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยความคิด และมีสติสัมปชัญญะ ไม่ใช่ทำไปเพราะความหิวโหยโดยปราศจากสมองสั่งการ ทั้งตัวอาชิน และคนอื่นๆ ในเรื่อง

ด้วยความยาวราวๆ 90 นาที ถ้าเป็นหนังใหญ่ฉายโรง Kingdom – Ashin of the North คงมีชื่อไทยว่า ยัยตัวร้ายกับดอกไม้ปีศาจ หรือ ยัยตัวร้ายกับซากจากนรก แต่กับการเป็นตอนก่อนและตอนแยกของ Kingdom ทั้งจากตัวเรื่อง ทั้งความยาว ตลอดจนบทสรุป ที่ยังเปิดกว้าง เป็นไปได้เหมือนกันว่า เรื่องราวของอาชินอาจจะมีภาคต่อ หรือหนักข้อกว่านั้นก็คือการขยับขยายไปเป็นซีรีส์คู่ขนาน คล้ายๆ Fear the Walking Dead กับ The Walking Dead โดยหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนตอนนำหรือตอนไพล็อต ซึ่งจากที่เห็นเปิดทางเอาไว้ได้เป็นอย่างดี