รีวิวหนังผี Night of the Living Dead

พี่น้องคู่หนึ่งมาทำความเคารพพ่อผู้ล่วงลับที่สุสาน แต่กลับโดนโจมตีจากชายที่ดูไร้ชีวิต จนพี่ชายตาย และน้องสาววิ่งหนีไปยังบ้านคนริมชนบท ที่ซึ่งกลุ่มคนอันหลากหลายได้มาหลบอยู่ก่อนแล้ว ในไม่ช้าพวกเขาก็ฟังข่าวว่าทั้งโลกกำลังเต็มไปด้วยคนตายที่ฟื้นขึ้นมา และต้องช่วยป้องกันบ้านก่อนที่ฝูงคนตายเหล่านี้จะบุกเข้าถึงตัวพวกเขา รีวิวหนังผี Night of the Living Dead รีวิวหนังผี

น้อยครั้งที่จะกล่าวได้ว่าหนังซักเรื่องได้สร้าง genre ขึ้นมาทั้ง genre หนึ่ง แต่ Night of the Living Dead ก็เป็นหนึ่งในนั้น ก่อนหน้านี้มีการใช้ซอมบี้เป็นตัวละครในหนังยุคก่อนมาบ้างแล้ว แต่หนังของ George A. Romero เป็นเรื่องแรกที่กำหนดกฏชัดเจน ภายในเนื้อเรื่องที่พวกมันเป็นจุดสำคัญอย่างที่สุดและนอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นกระแสหนังซอมบี้ในแบบที่เรารู้จักทุกวันนี้ มันยังรื้อขนบ “หนังสัตว์ประหลาด”

ยกแผงใหม่อีกด้วย บทวิจารณ์ของ Roger Ebert ตอนเขียนเรื่องนี้เขาไม่ได้กล่าวถึงคุณภาพตัวหนังเท่าไร แต่พูดถึงปฏิกิริยาต่อหนังด้วยบรรดาผู้ชมที่คุ้นเคยกับหนังสัตว์ประหลาดเน้นบรรยากาศหลอน ๆ สนุก ๆ มาหลายทศวรรษ ต้องอึ้งและช็อคไปกับความโหดไม่เน้นยั้งและความสิ้นหวังของเนื้อเรื่อง (จนเด็กสมัยนั้นที่ปกติพากันไปดูหนังแนวนี้เยอะด้วยความสนุก กลับนั่งนิ่งร้องไห้เงียบ ๆ ไปหลายคน) เว็บดูหนัง

ผ่านมาเกือบห้าสิบปี ความโหดของหนังซอฟท์ลงมากเมื่อเทียบกับสมัยนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ความเก่าของเอฟเฟ็คเลือดเนื้อกับการแสดงไม่เป็นผลกระทบต่อหนังเท่าไร คือความเก่าเหล่านั้นไม่ได้ดูสลายลงเป็นความชุ่ย แต่เหมือนเป็นการจับภาพเวลา ณ จุดหนึ่งในอดีตมากกว่า ผลกระทบของการเป็นหนัง ‘สัตว์ประหลาด’ โทนสยองจริงจังเรื่องแรกยังรู้สึกถึงได้ทุกวันนี้ ด้วยหนังเชื่อมกับอารมณ์ในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะบรรยากาศของสงครามเวียดนามและการคอมเม้นต์เรื่องเชื้อชาติ (จากการที่พระเอกเป็นชายผิวสี) ที่ต่างแฝงอยู่ในเนื้อเรื่องได้อย่างแนบเนียน เว็บดูหนังฟรี

ที่สำคัญ ถึงแม้ฉากเลือดเนื้อจะไม่เท่าไรเมื่อเทียบกับภาพโหดในหนังสยองขวัญปัจจุบัน แต่หลายปมประเด็นและเรื่องของหนัง มันไร้กาลเวลาอย่างยากที่จะลดทอนอิมแพ็คลงได้ ไม่ว่าจะสายสัมพันธ์พ่อแม่ลูก, ความเห็นแก่ตัวของคนในยามคับขัน, รวมไปถึงตอนจบที่แทบจะแตะรสสิ้นหวังสีดำได้ จากการเหมือนหนังแดกดันธรรมชาติของมนุษย์ว่าบางทีก็ยิ่งกว่าซอมบี้เสียเองอย่างที่สุด ดูน้อยลง หนังฟรี

หนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด ถือว่าเป็นหนังคลาสสิคที่ได้กระตุ้นความนิยมกระแสหนังซอมบี้ไปทั่วโลก ณ ปัจจุบัน ด้วยเนื้อหาสยองขวัญที่แปลกใหม่และโดดเด่นเป็นอย่างมากในสมัยนั้น ทำให้หนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

สำหรับในวันนี้ ผู้เขียนอยากพาทุกท่านหวนคืนอดีตไปแอบส่องกันดีกว่าว่าหนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด แม้จะเป็นหนังเก่ามาก แต่หากเปิดรับชม ณ ปัจจุบัน จะยังคงความ “เก๋า!” เอาไว้ได้หรือเปล่า!? มาลองติดตามผ่านรีวิวในบทความชิ้นนี้กันได้เลย

เรื่องราวของหนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด เริ่มต้นขึ้นเมื่อเกิดปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติจากดาวเทียมนอกโลกที่ได้ทำการแผ่รังสีลงมา ส่งผลกระทบทำให้ศพของเหล่าคนตายฟื้นคืนชีพพากันออกมาจากหลุมศพเพื่อล่าคนเป็นกินเป็นอาหาร ผู้คนที่เผชิญกับเหตุการณ์ชวนขนลุกนี้จึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวเองให้รอด หนังใหม่

หากมองไปในยุคช่วงปี 60 หนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด ถือว่าเป็นหนังที่มีบทภาพยนตร์ การกำกับแสดง ทีมนักแสดง การถ่ายภาพและดนตรีประกอบที่เยี่ยมเป็นอย่างมาก

หนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด แทบไม่มีบทสนทนาเลย แต่มันกลับเพียงพอที่จะทำให้คนดูสามารถเข้าใจได้ว่าผู้กำกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวอะไรอยู่ เลือดและเปลวไฟในฟิล์มขาวดำสร้างความเอกลักษณ์อันน่ากลัวที่โดดเด่นมากกว่าที่หนังในปัจจุบันจะสามารถทำได้เสียอีก

ในส่วนของข้อด้อย เนื่องจากหนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด เป็นหนังที่เก่ามากและถ่ายทำด้วยฟิล์มขาวดำ เลยทำให้บางส่วนของภาพยนตร์ในความมืดมิดค่อนข้างดูลำบาก บางคนอาจถึงขนาดต้องเพ่งตามมองตามหารายละเอียดต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันภาพแบบขาวดำเองก็มีข้อดีเช่นกัน เนื่องจากมันช่วยยกระดับความน่ากลัวของเหล่าซอมบี้ให้สูงขึ้นไปอีกขั้นได้อย่างน่าสนใจ

การเล่าเรื่องราวของหนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด ถือว่าค่อนข้างตรงไปตรงมา ผู้รอดชีวิตถูกซอมบี้ไล่ล่าและพยายามหาสถานที่หลบภัยอันปลอดภัย แน่นอนว่ามันเรียบง่ายอย่างมาก แต่ด้วยบุคลิกของตัวละครที่สามารถแสดงออกมาให้เห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยความน่าสนใจตั้งแต่ต้นจนจบ ดูหนังฟรี

สำหรับมุมกล้อง บทและการแสดง หากนำมาเทียบกับยุคปัจจุบันก็คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะวงการภาพยนตร์ได้รับการพัฒนาไปมากโข แต่ถ้าหากมองเฉพาะในส่วนของความคลาสสิกเชื่อว่าจะสามารถทดแทนจุดด้อยเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

หนังสยองขวัญ Night of the Living Dead ซากดิบไม่ต้องคุ้มกำเนิด ถือว่าเป็นหนังซอมบี้ “ต้นฉบับ” ที่ควรค่ากับการยกย่องและเปิดรับชมดูสักครั้ง เพราะมันคือตนกำเนิดกระแสความนิยมของซอมบี้ ณ ปัจจุบัน แถมยังพูดได้แบบเต็มปากเต็มคำว่าหนังเรื่องนี้ ยังมีข้อดีน่าสนใจมากมาย มากกว่าหนังซอมบี้เกรด B- ในปัจจุบันอีกหลายต่อหลายเรื่องอย่างแน่นอน…

หนังเปิดเรื่องแบบเรื่อยๆ เรียงๆ มีสองพี่น้องชายหญิงเดินทางไปที่สุสานเพื่อเคารพแม่ที่เสียไปแล้ว ในระหว่างทางก็มีการโต้คารมกันจนทำให้เรารู้ว่าตัวพี่ชายเองก็ไม่ได้อยากมาที่นี่สักเท่าไหร่ และดูเป็นคนขี้บ่นที่น่ารำคาญไม่น้อย ส่วนตัวน้องสาวเองก็เป็นคนย้ำคิดย้ำทำจนเกินไป ไม่แปลกใจที่พี่น้องคู่นี้จะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก

ฟังดูอาจจะรู้สึกว่าเรื่องราวมันช่างน่าเบื่อ กว่าจะได้บันเทิงกันจริงๆ คงต้องรอถึงช่วงองก์สอง แต่เปล่าเลยหนังใช้เวลาเปิดเรื่องนี้เพียงแค่ 5 นาที จากนั้นก็คือการปรากฏตัวของซอมบี้และการไล่ล่ามนุษย์ที่ต้องเอาตัวรอดให้ได้จนแทบหายใจไม่ทัน

Night of the Living Dead (1990) เป็นหนังที่หยิบเวอร์ชันปี 1965 มาสร้างใหม่อีกครั้ง ซึ่งกำกับโดย George A. Romero ที่ในตอนนั้นเขานำผีดิบที่มีเค้าโครงมาจากความเชื่อของชนเผ่าวูดู ว่าสามารถปลุกคนตายขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแรงงานทาสได้ โดย George A. Romero นำมาเล่าใหม่อย่างพลิกขั้วให้กลายเป็นเหล่าศพที่ลุกขึ้นมาไล่กัดกินมนุษย์ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสที่อาจจะหลุดออกมาจากการทดลองของทหาร ดูหนังออนไลน์

แต่สิ่งที่ทำให้หนังซอมบี้ของ George A. Romero ที่แม้จะถูกให้ค่าในตอนออกฉายว่าเป็นแค่หนังเกรดบี ที่เอาไว้ฉายเป็นหนังควบในโปรแกรมของโรงหนังช่วงเที่ยงคืน และความทุนต่ำของตัวหนังนั่นคือความน่ากลัวที่แท้จริงมาจากมนุษย์ด้วยกันเอง

ซอมบี้ในยุคของ George A. Romero แม้จะเชื่องช้าจนคนยุคนี้มองเป็นเรื่องขบขัน และถูกนำมาล้อเลียนในหนังหลายเรื่อง แต่บิดาของหนังซอมบี้คนนี้ก็คือแรงบันดาลใจให้กับคนที่ทำงานในสายสร้างสรรค์เกือบทุกมิติ หรือใครที่คิดว่าซอมบี้ที่เดินช้าๆ จะไปน่ากลัวอะไร ลองหยิบเกม Resident Evil 2 Remake มาเล่นดูก่อน เพราะต้องไม่ลืมว่าพวกมันไม่เหนื่อย ไม่เจ็บ ไม่ตาย ตราบใดที่หัวไม่ระเบิด และการใช้ปืนพกยิงหัวซอมบี้นั้นก็ใช่ว่าจะทำให้มันหัวแตกได้ทุกครั้ง นั่นยังไม่นับอาการลนลานเมื่อมันมีมากกว่าหนึ่งตัวและกำลังเดินมาหาคุณในพื้นที่ที่ซอมบี้เพ่นพ่านอยู่เต็มไปหมด…

ซึ่งในหลายฉากของ Night of the Living Dead มักถูกหยิบมาคาราวะจากผู้กำกับหนังรุ่นใหม่มากมาย รวมถึง ชินจิ มิกามิ ผู้สร้างเกม Resident Evil ให้เด็กๆ ที่มีเครื่อง PlayStation ได้ขนหัวลุก และเผลอร้องกรี๊ดออกมาดังๆ ในช่วงปลายยุค 90s โดยเฉพาะฉากที่เราเผลอบังคับตัวละครไปยืนใกล้หน้าต่างแล้วมีมือของเหล่าซอมบี้พุ่งทะลุกระจกมาคว้าตัวเรา

หรือในเกม Resident Evil 2 Remake ของปีที่แล้ว ก็มีหลายฉากที่ทำออกมาเพื่อสดุดีให้กับ George A. Romero เช่น ฉากที่ตัวซอมบี้ยืนอยู่ตรงราวบันไดและร่วงลงมาข้างล่างในตำแหน่งที่ตัวละครของเรายืนอยู่ ซึ่งก็มาจาก Night of the Living Dead

แต่ด้วยความเป็นได้ทุกอย่างเชิงสัญลักษณ์ของซอมบี้ เมื่อมันไปอยู่ในมือคนทำที่เก่ง พวกมันก็พร้อมจะคืนชีพขึ้นมาได้เสมอ เช่น การที่ แซ็ก สไนเดอร์ หยิบเอา Dawn of the Dead (2004) ซึ่งเป็นงานเก่าของ George A. Romero มาเล่าใหม่ได้อย่างสนุกสนาน จนเกิดเป็นกระแสซอมบี้ฟีเวอร์อีกครั้ง ซึ่งซอมบี้ทีวิ่งไล่กวดแบบ 4×100 นี้ก็ต่อยอดมาจาก 28 Days Later (2002) ของ Danny Boyle อีกที ซึ่งนับจากนั้นเป็นต้นมา

เราก็แทบไม่ได้เห็นซอมบี้เดินอย่างเชื่องช้าอีกเลย (ตกลงจะไม่เหลือทางรอดให้กันแล้วใช่ไหม) หรือเมื่อสีปีก่อน ซอมบี้ได้กลับมาอาละวาดในกรุงโซลเกิดเป็นหนังเรื่อง Train to Busan (2016) ที่คว้าทั้งเงินและกล่อง รวมถึงการกลับมาในภาคต่อชื่อ Peninsula ที่กำลังเข้าฉายในบ้านเราตอนนี้ ซึ่งหลายคนก็กลับเข้าโรงหนังอีกครั้งหลังจากที่ต้องปรับตัวกันยกใหญ่ในการออกจากบ้านเพื่อมาดูหนังจากมาตรการการเว้นระยะห่าง