รีวิวหนังผี The Closet

รีวิวหนังผี The Closet

ด้วยหวังล้างใจจากการสูญเสียไปในอุบัติเหตุรถยนต์ ซังวอน (ฮา จองอู) สถาปนิกหนุ่มได้พา อินา (ฮอยูล) ลูกสาววัย 11 ขวบหนีจากเมืองใหญ่ไปอยู่บ้านพักหรูในป่า แต่สิ่งที่แถมมากับบ้านหลังนี้นอกจากความหรูหราก็คือตู้เสื้อผ้าโบราณในห้องนอนของอินาที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาด ๆ กับตัวอินาทั้งการพูดคุยกับเพื่อนในจินตนาการและยังมีตุ๊กตาผ้าเก่า ๆ รีวิวหนังผี The Closet รีวิวหนังผี

ที่ไม่รู้อินาเอามาจากไหน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ ๆ อินาก็หายตัวไปร่วมเดือน จนกระทั่ง คยองฮุน (คิม นัมกิล) หมอผีหนุ่มที่ตามสืบเรื่องราวของเด็กที่หายตัวไปในบ้านได้เข้ามาร่วมมือกับ ซังวอน เพื่อตามหาความจริงและพา อินา กลับมาก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

เรียกได้ว่าจากกระแส Parasite ครองออสการ์น่าจะทำให้ปีนี้เราได้ดูหนังเกาหลีในโรงกันมากขึ้นแน่ ๆ และที่ไม่รอช้าเลยก็คือสตูดิโอเจ้าของเดียวกันอย่าง Cj Entertainment ที่ขอเสิร์ฟหนังสยองขวัญบล็อกบัสเตอร์ทำเงินจากเกาหลีอย่าง The Closet มาให้คนไทยได้ชิมกันต่อ ยิ่งตลาดหนังเมืองไทยที่หนังผีคือแนวหนังชูโรงด้วยแล้ว ก็ไม่ได้ยากเกินคาดเดาเลยว่างานนี้กะมาทำเงินเอาตังค์จากนักดูหนังชาวไทยแน่ ๆ แต่จะทำหนังผีตามกระแสหนังผีเอเซียเหมือนตอนต้นปี 2000 ก็กะไรอยู่ ดูหนัง

คราวนี้หนังอย่าง The Closet เลยปรุงรสเพิ่มทั้งประเด็นชนชั้นต่อเนื่องมาจาก Parasite และแถมด้วยวัฒนธรรมเชมัน หรือ การไล่ผีอันเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของเกาหลี แล้วมาแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยสูตรหนังสยองขวัญครบรสแบบหนังผีของผู้กำกับ เจมส์ วาน ผลลัพธ์คือหนังสยองขวัญสุดบันเทิงและช่างคิดเรื่องนี้นั่นเอง

หลังดูหนังจบสิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนมากคือร่องรอยแรงบันดาลใจของหนังผีแบบเจมส์ วาน ที่อยู่ในแต่ละองค์ประกอบของหนัง โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัว การเล่นกับพื้นที่และสิ่งของในบ้านที่แทบจะเหมือน The Conjuring หรือหนังในตระกูลใกล้เคียงกัน ตลอดไปจนการสอดแทรกอารมณ์ขันเมื่อตัวละครอย่าง คยองฮุน ปรากฎตัวขึ้น แต่ก็ไม่ได้เป็นการเลียนแบบอย่างไร้ยางอายตรงกันข้าม มันยังเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่พยายามหนีไม่ให้หน้าหนังไปเทียบเคียงกับงานหนังฮอลลีวูดเรื่องดัง แถมยังมีศักดิ์ศรีที่พอแข่งกันได้อย่างสมศักดิ์ศรีอีกด้วย ดูหนังออนไลน์

สำหรับฉากสยองขวัญที่ส่วนตัวมองว่าน่ากลัวที่สุดหนีไม่พ้นการปรากฎตัวของผีหมอผี และการหลบจากการโจมตีของเหล่าผีเด็กที่ทำให้ ซังวอน ไม่อาจลืมตาได้ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ถือว่าหนังสามารถทำได้อย่างชวนลุ้นระทึก น่ากลัว และสยองขวัญสมใจคนอยากดูหนังผียิ่งนัก แต่กระนั้นก็ตามอย่างที่บอกไปในย่อหน้าที่แล้วว่ามันคล้ายหนังผีของเจมส์ วานตรงที่มันต้องมีครบรสซึ่งก็ทำให้ช่วงหลังของหนังทอนความน่ากลัวออกแล้วไปเน้นให้ลุ้นระทึกไปกับการสอบสวนหาความจริง ที่ก็ดันไปพูดเรื่องชนชั้นแบบเดียวกับ Parasite อีก ซึ่งก็ถือว่าเป็นประเด็นร่วมที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้และทำให้บทหนังของ The Closet มีสาระที่ทำให้คนดูได้ออกมาถกเถียงกันต่อได้ดี แม้จะไม่เข้มข้นเท่าของหนังออสการ์เรื่องดังก็ตาม

และแน่นอนแล้วว่าสำหรับเกาหลี หนังคือเครื่องมือเผยแพร่วัฒนธรรมดังนั้น The Closet จึงพาเราไปรู้จักกับวัฒนธรรมหมอผี หรือเชมัน ในลัทธิชิน ซึ่งถือเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมของเกาหลี แถมรัฐบาลยังสนับสนุนงานวิจัยและการสร้างสรรค์งานแสดงจากรากเหง้าวัฒนธรรมนี้อย่างจริงจังด้วย (จริงจังขนาดไหนก็ถึงขนาดผลักดันให้กลายเป็นนาฏศิลป์ร่วมสมัยแสดงที่โรงละครขนาดยักษ์) และก็ดันประจวบเหมาะกับการพยายามผลักดันให้มันมาอยู่ในสื่ออันทรงพลังอย่างภาพยนตร์

โดยก่อนหน้านี้วัฒนธรรมการไล่ผีก็อยู่ในหนังอย่าง The Wailing ของผู้กำกับนาฮงจินมาทีนึงแล้ว และกับ The Closet มันก็ทำให้เกิดตัวละครอย่าง คยอง ฮุน ที่แทบไม่ต่างจากซูเปอร์ฮีโรมาปราบผีหรือหมอผีเท่ ๆ อย่าง คอนแสตนติน ของอเมริกาได้เลย ซึ่งก็ถือเป็นการเอาวัฒนธรรมชามันมาขายให้ชาวโลกได้รู้จักแบบเนียน ๆ ได้อีกด้วย ดูหนังฟรี

สรุปแล้ว The Closet ก็คือหนังผีดูสนุก ๆ นั่นแหละ มีทั้งฉากผีแฮร่..น่ากลัว ๆ มีทั้งฉากหลบผีชวนลุ้นระทึก รับรองใครที่ชอบตามหนังผีของเจมส์ วาน ก็น่าจะได้อรรถรสไม่แพ้กัน แถมพ่วงด้วยวัฒนธรรมเชมันได้อย่างชาญฉลาดและยังพูดเรื่องชนชั้นต่อจาก Parasite มาเป็นกลวิธีการเฉลยเรื่องได้อย่างชาญฉลาดเลยแหละ

หลายๆ คนอาจมองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญเพียงอย่างเดียว แต่…สิ่งที่ Trailer บอกคุณนั้นเป็นเพียงแค่ 1% ของภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้น เราจะเล่าในส่วนที่เป็น Symbolic นะ แล้วส่วนเรื่องที่เป็นผีๆ ลี้ลับลองไปดูเอง ใบ้ให้ว่ามันเป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมเกาหลีในรูปแบบของเชมัน ในลัทธิชิน เว็บดูหนัง

The Closet | ตู้นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เป็นเรื่องราวของ “ซังวอน” (ฮาจองอู) ที่เรารู้จักกันดีในภาพยนตร์ ASHFALL หัวหน้าครอบครัวที่สูญเสียภรรยาจากอุบัติเหตุรถชน เขาจึงตัดสินใจพา “อีนา” (ฮอยูล) ลูกสาวเพียงคนเดียวย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่

เรื่องราวของพ่ออย่าง “ซังวอน” ที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีมากนักกับลูกสาว มิหนำซ้ำ “ซังวอน” ยังต้องไปทำงานไซด์งานก่อสร้าง ไม่มีเวลาอยู่กับ “อีนา” เขาพยายามหาคนมาเลี้ยงดูแทนและพยายามจะส่งเธอไปเรียนที่ โรงเรียนศิลปะบำบัด ก่อนที่เรื่องราวต่างๆ จะบานปลาย “ซังวอน” ได้บอกกับลูกสาวของตัวเองว่า จะไม่อยู่บ้าน 2 เดือน ถึงแม้ว่า “อีนา” จะขอตามไปที่ไซด์งานก่อสร้างกับพ่อก็ไม่สามารถไปได้

จุดที่สำคัญที่ “อีนา” รู้ทันทีว่าพ่อของเธอพยายามที่จะตัดรำคาญก็คือการซื้อตุ๊กตามาให้เธอเล่นอยู่เป็นประจำเพราะตัวของ “ซังวอน” เองไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แต่นี่กลับกลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ครอบครัวยิ่งแตกร้าว

“อีนา” ได้พบกับอะไรบางอย่างที่เป็นตัวเชื่อมโยง และ ลักพาจิตใจของเธอที่มีความรู้สึกโดดเดี่ยว หลุดเข้าไปในตู้ที่เต็มไปด้วยแหล่งรวมความรู้สึกที่บอบช้ำ ทันที “ซังวอน” รู้ว่าลูกสาวของตัวเองหายตัวไป การออกตามหาจึงเริ่มขึ้นมีทั้งคนที่หวังดีและไม่หวังดีหยิบยื่นน้ำใจเข้ามาพอสมควร รวมไปถึงคนนี้ “คยองฮุน” (คิม นัมกิล) ที่เป็นคนชี้ทางสว่างให้กับ “ซังวอน” ว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และ “คยองฮุน” ก็ได้บอกถึง สาเหตุที่ทำไป “อีนา” ถึงหายตัวไปนั้น ก็เพราะจริงๆ แล้ว ข้างในใจลึกๆ ของ “ซังวอน” เห็นงานสำคัญกว่าลูกสาวของตัวเอง และพยายามผลักเธอออกไปให้ห่าง “ซังวอน” ยอมรับและเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงให้ “คยองฮุน” ที่เป็นหมอผี พาตัวเองเข้าไปสู่โลกคู่ขนานที่สามารถพาตัวของ “อีนา” กลับมาได้

ในโลกคู่ขนานนั้น เป็นโลกที่ถูกสร้างมาจาก “ฮยองจิน” เด็กวัย 11 ขวบ ที่ครอบครัวเจอภาวะล้มละลาย เธอถูกพ่อแท้ๆ ขังไว้ในตู้เสื้อผ้า รมควันจนตายมันจึงเกิดเป็นปมของเรื่องนี้ขึ้นมา เธอพยายามตามหาเด็กที่โดนกระทำจากครอบครัวเฉกเช่นเดียวกับที่เธอได้โดนกระทำ ซึ่งในโลกคู่ขนานนั้นมีเด็กจำนวนมาก จนเรียกได้ว่าตั้งเป็นห้องเรียนได้เลย เว็บดูหนังออนไลน์

รีวิวหนังผี The Closet

เมื่อ “ซังวอน” สามารถเข้าไปในโลกคู่ขนานนั้นได้แล้ว เขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ “ฮยองจิน” ปล่อยตัวลูกสาวของตัวเอง โดยที่ให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาตนเองเป็นคนผิดทั้งหมด แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปในแง่ดีสักเท่าไร จนกระทั้ง “คยองฮุน” หมอผีที่คอยช่วยซัพพอร์ตอยู่อีกฝั่ง นึกวิธีที่จะช่วย “ซังวอน” และ “อีนา” ก็คือ กลับไปจัดการกับปมปัญหาของ “ฮยองจิน” ก็คือการดูแลเลี้ยงดู และการไว้ใจ

“คยองฮุน” สามารถทำให้ “ฮยองจิน” เจอแม่อีกครั้ง แม่ที่เธอเองก็ไม่ได้สั่งลา มีเพียงสายตาสุดท้ายที่ขอความช่วยเหลือเท่านั้น หลังจากนั้น “ซังวอน” พาลูกสาวกลับมาได้สำเร็จ และมีเวลาดูแลเธอมากขึ้นใส่ใจมากขึ้น แต่…ฉากทิ้งท้ายในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการที่เด็กคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถึงแม้ว่าจะมี “ฮยองจิน” ที่เป็นแกนนำในการดึงตัวเด็กเข้าไปในโลกคู่ขนานนั้น ก็ยังมีผีตัวใหม่ๆ ที่ทำเช่นนั้นอยู่ เพราะในโลกของความเป็นจริงยังมีเด็กอีกมากมายที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากครอบครัว

เราจะสังเกตได้ว่าพักหลังๆ ภาพยนตร์เกาหลีหันมาทำเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ชนชั้น การแบ่งแยก มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ASHFALL PARASITE วงการภาพยนตร์เกาหลีพยายามสะท้อนอะไรกันแน่ ความเป็นจริงของคนในประเทศ? ความเป็นจริงที่คนอย่างเราๆ มองเข้าไป อันไหนกันแน่ที่คือความจริง

ภาพยนตร์ : The Closet | ตู้นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
ความสนุก : ถือว่าเล่าเรื่องราวได้ดีผสมกันระหว่างสยองขวัญกับดราม่า 8/10
กราฟิก CG : หลายๆ อย่างในเรื่องไม่ได้ดูแย่ การทำ CG ผี หรือ ฉากต่างๆ มุมกล้องโอเค 8/10
เนื้อเรื่อง : จุดที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจเลยนะ คือการที่ทำเรื่องผีให้ดราม่าในมุมของการสะท้อนปัญหาสังคมที่ ประเทศเกาหลีกำลังเผชิญอยู่ 9/10