รีวิว คืนอํามหิต

รีวิว คืนอํามหิต

ดูหนังเถื่อน หนังอีกหนึ่งเรื่อง…ที่เราคิดว่าเดินทางมาไกล…ไกลกว่าที่คิดเอาไว้มากแล้วตอนนี้ และการเดินทางของหนังเรื่องนี้ก็ยังแผ่ขยายและใส่ไอเดียไปได้อีกอย่างไร้ที่สิ้นสุด และในปีนี้กลับมาอีกครั้งเป็นภาคที่ 4 กับ “The Forever Purge” (คืนอำมหิต: อำมหิตไม่หยุดฆ่า) ที่เป็นการยกระดับความเข้มข้นในทุกๆ ด้าน จากพิธีไถ่บาปเพียงแค่คืนเดียว กลายเป็นฝันร้ายของอเมริกันชนที่อาจจะไม่มีวันสิ้นสุดลง เพราะสังคมที่เสื่อมทรามลงเรื่อยๆ รีวิว คืนอํามหิต รีวิวหนังผี

ดูหนังออนไลน์ The Forever Purge เล่าเรื่องราวภายหลังจากที่ทุกกฎบัญญัติได้ถูกทำลายลง กลุ่มโจรฉกรรจ์เดนดินไม่ได้คำนึงถึงข้อกฎหมายใดๆ อีกต่อไป ได้ลงมติและตัดสินใจกันไปเลยว่าจะดำเนินการกวาดล้วงในพิธีไถ่บาป ที่จะไม่ใช่แค่เกิดขึ้นเพียงคืนเดียวก่อนจะรุ่งสาง แต่มันสมควรจะเป็นการไถ่บาปแบบไม่มีวันวันสุด ทุกที่ และทุกเวลา นี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะที่สั่นสะท้านไปทั่วแผ่นดินอเมริกา ดูหนังฟรี

หนึ่งสิ่งที่ต้องทำใจยอมรับในองค์ประกอบของหนังตระกูล The Purge นั้นก็คงจะเป็นเรื่องความแปลกใหม่ของเนื้อหา ที่แทบจะไม่พบอะไรที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจอีกแล้ว เพราะส่วนประกอบต่างๆ ในหนังก็ยังให้ความรู้สึกและอรรถรสเดิมๆ ที่คุ้นกันมาแล้วใน 3 ภาคที่ผ่านมา นี่จึงกลายเป็นหนังที่ยิ่งสร้างก็ยิ่งแผ่วลง แม้ว่าคอนเซ็ปต์โดยรวมของหนังก็มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมเป็นหลักดีอยู่แล้ว แต่มันกลับเหมือนดูอะไรซ้ำๆ เดิมๆ วนไปไม่เคลื่อนที่ไปไหน

โดยเฉพาะใน The Forever Purge ที่เอาจริงๆ เหมือนจะมีประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร เมื่อพิธีไถ่บาปกำลังจะเกิดขึ้นแบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่ท้ายที่สุดหนังก็เลือกใช้วิธีเล่าเรื่องแบบง่ายๆ กลายเป็นเนื้อหาไปกองกระจุกอยู่ตรงกลางเพียงหยิบมือ แล้วใช้ตัวละครต่างๆ นำเรื่องเดินไปโดยที่ไม่มีรายละเอียด หรือสร้างมิติใดๆ ออกมาเป็นพิเศษยกระดับและคุณค่าของตัวหนังเลย

ก็นับว่าจริงที่นับภาคนี้ได้เล่นกับความรู้สึกที่อาจจะเสียดสีประเด็นการเมืองอยู่เบาๆ โดยเฉพาะปัญหาสังคมแห่งความเกลียดชังที่เกิดขึ้นจริงกับสังคมอเมริกันในปัจจุบัน ปัญหาแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบเข้าประเทศ กลายเป็นประเด็นการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หนังได้หยิบประเด็นนี้มาชูเรื่องเป็นหลัก แต่ด้วยความที่มือไม่ถึง…สุดท้ายก็ได้แค่ลูบๆ คลำๆ ประเด็นนี้เอาตัวรอดไปง่ายๆ แบบไร้กึ๋นและไร้รสชาติ

แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ว่า The Forever Purge จะเป็นหนังห่วย อันที่จริงก็เป็นหนังที่ดูได้สนุกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว รู้จักการใส่จังหวะที่ดี เซอร์วิสแฟนๆ หนังได้เหมาะสม ดูได้เพลินๆ แต่แค่เหมือนจะหนังดูอะไรซ้ำๆ วนไป ถึงแม้ว่านี่จะเป็นหนังภาคที่ 4 แล้วก็ตาม ตัวละครต่างๆ ในหนังปูเอาไว้ได้ค่อนข้างน่าสนใจ แต่ควักออกมาใช้แบบตื้นเขิน จึงทำให้ภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ก็ยังคงครึ่งๆ กลางๆ ไปได้ไม่สุดสักทางเดียวเลย

โดยสรุปแล้ว The Forever Purge ก็เป็นหนังที่ดูก็ได้ ไม่ดูก็ไม่เป็นอะไร ใครที่ไม่ได้ติดตามดูภาคก่อนๆ มาก็ไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไป เพราะเปิดดูหนังเรื่องนี้เลยก็สามารถเข้าใจตามท้องเรื่องได้เลย แต่หากว่าใครที่แฟนหนังชุดนี้ อาจจะรู้สึกซ้ำซากอยู่เบาๆ แต่สุดท้ายก็ยังคงเป็นหนังที่พอดูได้ สาดกระสุนสะใจ ฆ่าแกงอย่างบ้าคลั่งกันเช่นเดิม เพียงแต่อย่าคาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้มาก ดูเอาเพลินๆ ก็จะกรุบกริบพอดี

หลังกลายเป็นหนังฟอร์มเล็กที่ทำรายได้จนจนน่าจับตา กลายเป็นหนังที่ได้การกล่าวถึงว่ามีพล็อตที่แปลกใหม่น่าสนใจ ‘The Purge’ ภาคแรกทำรายได้ในสหรัฐฯ ที่ 64 ล้านเหรียญและทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 89 ล้านเหรียญ ทั้งที่ใช้ทุนสร้างเพียง 3 ล้านเหรียญเท่านั้น ทำให้ได้ไฟเขียวให้สร้างภาคต่ออย่าง ‘The Purge Anarchy’ ที่ขยายโลกอันเน่าเฟะและตั้งคำถามใส่คนดูอีกครั้ง

หลังจากภาคที่แล้ว นำเสนอพล็อตที่เรียกได้ว่าประหลาด เมื่ออเมริกาปกครองด้วยวิถีแบบใหม่ เหตุเพราะประสบปัญหาความล้มเหลวในหลายด้านของสังคม จนคิดค้นวิธีในการกำจัดประชากรบางส่วนออกไป ด้วยพิธี “ล้างบาป” ด้วยการกำหนดในช่วงเวลาหลังตะวันตกดินไปจนถึงตะวันขึ้นในเช้าวันใหม่ของวันที่ 22 มีนาคม เป็นช่วงเวลาที่ใครก็สามารถฆ่าแกงใครก็ได้โดยไม่มีความผิด

ภาคนี้ไร้วี่แววนักแสดงผู้มีชื่อเสียงมาร่วมงาน ทุกอย่างจึงขับเคลื่อนด้วยบทและการดำเนินเรื่องแทบจะล้วนๆ นำโดยเรื่องราวของจ่าคนหนึ่ง (Frank Grillo) ที่ตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างในคืนล้างบาป เตรียมอาวุธไว้เต็มกระเป๋าและขับรถที่ปรับแต่งหุ้มเกราะอย่างดีออกนอกเคหสถาน ก่อนจะได้พบกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายกลางทาง และจำใจต้องช่วยไว้ ร่วมด้วยเรื่องราวของสองแม่ลูกฐานปานกลางคู่หนึ่งที่ถูกบุกรุกจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน กับหนุ่มสาวอีกคู่ที่รถเสียติดแหง็กอยู่กลางใจเมือง

‘เดอะเพิร์จ คืนอำมหิต : คืนล่าฆ่าไม่ผิด’ บอกเล่าถึงอเมริกาที่ผ่านคืนล้างบาปมาถึงปีที่ 6 อะไรหลายอย่างๆ เริ่มจะเกิดขึ้นตามจำนวนปีที่มันผ่าน เริ่มมีขบวนการต่อต้านการล้างบาป ประชาชนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเริ่มออกมามีบทบาท หนังยังขยายไปถึงความฟอนเฟะที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น เสียดสีความไม่เท่าเทียมกันของคนในสังคม และยังเขยิบเข้าไปวิพากษ์ถึงเรื่องกฏหมายอาวุธปืนอีกด้วย

หนังสร้างภาวะการลุ้นระทึกยาวตลอดเรื่อง โดยที่ผู้ชมเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจาก ณ เวลานั้น จะมีใครรอด จะมีใครตายในระหว่างทางมั้ย ซึ่งก็พบแต่ความตื่นเต้นและลุ้นระทึกตลอดช่วงเวลาของภาพยนตร์ อย่างไรก็ดี หนังอาจมีบางตัวละครที่น่ารำคาญอยู่บ้าง และอาจจะจุดเล็กจุดน้อยที่อาจถูกผ่านเลยไป หากแต่เมื่อดูโดยรวมของหนังอย่าง ‘เดอะเพิร์จ คืนอำมหิต : คืนล่าฆ่าไม่ผิด’ ยังคงตั้งคำถามพุ่งเข้าหาเราอย่างไม่เกรงใจ ว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำเช่นไรในเหตุการณ์อย่างเรื่องนี้

หนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต ถือว่าเป็นปฐมบทเรื่องราวความสยองขวัญแห่งซีรีส์ “คืนล้างบาป” ที่นำเสนอเรื่องราวของคืนที่สุดแสนหฤโหด ปลดปล่อยสันดานดิบของมนุษย์ในการเข่นฆ่ากันเองออกมาได้อย่างถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียว

ถ้าหากใครชอบดูหนังที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้าย ป่าเถื่อนและกลับกลอกของมนุษย์ ลองมาทำความรู้จักกับหนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต กันดีกว่าว่า มีความน่าสนใจ น่าดูกันแค่ไหน!? ผ่านรีวิวจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย…

เรื่องราวของหนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต เกี่ยวกับครอบครัวผู้มั่งคั่งอาศัยอยู่ในย่านคนรวย ที่ผู้เป็นสามีทำอาชีพเป็นนายหน้าขายระบบประกันภัยรุ่นใหม่ล่าสุด แต่แล้วเมื่อถึงคืนวันล้างบาป ที่การก่ออาชญากรรมและการสังหารผู้อื่นกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมายมาเยือน ครอบครัวของพวกเขาก็ถูกคุกคามจากกลุ่มฆาตกรที่พยายามบุกรุกเข้ามาในบ้านของพวกเขา โดยหวังบางสิ่ง….

หนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต เป็นหนังที่สามารถสะท้อนให้เห็นสังคมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมืองแบบขวาจัด ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถฆ่าคนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าพูดให้ถูกคือ เป็นการแสดงให้เห็นถึงปีศาจที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์อย่างชัดเจน ทำให้การทำลายล้างและเข่นฆ่า ยิ่งชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม

ด้วยแนวคิดเหล่านี้ ทำให้หนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต กลายมาเป็นหนังที่มีแนวเรื่องอันยอดเยี่ยมนี้เองที่ทำให้สร้างแนวคิดของหนังที่เป็นเอกลักษณ์มากและสร้างสเน่ห์ให้กับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้อย่างน่าถึง โดยเฉพาะแนวคิดที่ว่า “มนุษย์ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อสังคม!?”

การดำเนินเรื่องราวและนักแสดงถือว่าทำออกมาได้ดีมาก หนังเรื่องนี้กระตุ้นให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด ความหวาดกลัวและความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะไม่ใช้หนังสัตว์ประหลาด หรือฆาตกรอมตะ เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาทั่วไปก็สามารถที่จะสร้างความสยองขวัญได้เช่นกัน!!!

ในส่วนของจุดด้อย หนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต ต้องบอกว่าบทของลูก ๆ ในเรื่องราวถือว่าน่ารำคาญมาก แน่นอนว่าการกระทำของพวกเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้องและทำเพื่อคนอื่น แต่มันกลับสร้างความเลวร้ายให้กับครอบครัวของตัวเอง เข้าทำนองที่ว่าเป็นเด็กเปรตที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดแย่ลงกว่าเดิมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อีกประการหนึ่งคือ ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่หนังไม่ได้พยายามให้รายละเอียดที่เหมาะสมมากนัก ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งหมดที่แสดงออกมาในหนังค่อนข้างที่จะตื้นเขิน และแน่นอนว่ามันนำไปสู่การไม่รู้สึกอยากที่จะเอาใจช่วยพวกเขานัก เพราะคนดูรู้จักกับพวกเขาน้อยมาก!?

สำหรับผู้เขียน หนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างสนุกเอาการ ถึงแม้ว่าฉากจะไม่ได้ถ่ายทำในหลายสถานที่แบบหวือหวา แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังที่สุกเอาการ เหมาะกับการรับชมในวันที่แสนน่าเบื่อเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังมองหาหนังแนวเชือด ฆาตกรและการแสดงสันดานดิบของมนุษย์ออกมาให้เห็นแบบสุดขั้ว รับรองว่าหนังสยองขวัญ The Purge คืนอำมหิต เป็นหนึ่งในหนังที่ควรค่าสำหรับใส่ไว้ในรายการรับชมอย่างแน่นอน…

หนังจบแบบค่อนไปทางแฮปปี้นะครับ สานต่อภาคต่อไปได้สบาย ๆ รายได้ 127 ล้าน จากทุนสร้างจุ๋มจิ๋มเพียง 13 ล้าน ก็เป็นหลักประกันแล้วว่าหนังประสบความสำเร็จเพียงใด มันคือหนังตลาดที่สร้างมาเอาใจตลาดนะครับแล้วก็ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้ครบถ้วน อยากเห็นฉากโหดได้เห็น อยากมันส์ก็ได้มันส์ ฉากลุ้น สะดุ้งตุ้งแช่มีครบ ในเวลาพอเหมาะพอเจาะ 98 นาทีครับ

เช้าวันหนึ่งหลังจากคืนล้างบาปผ่านพ้นไป กลุ่มนักฆ่าสวมหน้ากากได้บุกเข้าจู่โจมครอบครัวทัคเกอร์ ซึ่งรวมถึงภรรยา (แคสซิดี้ ฟรีแมน จาก HBO’s The Righteous Gemstones)และน้องสาว (เลเวน แรมบิน จาก The Hunger Games) ของดีแลน พวกเขาทั้งหมดต้องร่วมมือกันต่อสู้ท่ามกลางความโกลาหลและล่มสลายของอเมริกาที่รายล้อมพวกเขา จากมือเขียนบทและนักเล่าเรื่องอันเฉียบคมอย่าง เจมส์ เดอ โมนาโก