รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา

เป็นหนังผีที่น่ากลัวจริง ฉากเรียลฟุตเทจก็ทำได้ดี (แม้จะดูเฟคๆ เยอะ) แต่มามีปัญหาหลักๆ กับการเล่าเรื่องตัดสลับทำให้เรื่องดูยากแบบไม่เข้าท่า แล้วถ้านับความเหมือนกับพล็อตเรื่องกับคอนเซ็ปต์ของเดอะริงด้วย ทำให้แฟนๆ เดอะริงคงไม่ปลื้มกับเรื่องนี้นักครับ รีวิว มนตรา รีวิวหนังผี

ดูหนังเถื่อน มนตรา Incantation หนังไต้หวันที่เข้าโรงเดือนมีนาคม 2022 แล้วทำรายได้สูง ก่อนที่เน็ตฟลิกซ์จะซื้อมาฉายทั่วโลกในตอนนี้ เล่าเรื่องราวของคุณแม่ที่โดนคำสาปแล้วพยายามช่วยลูกโดยการเล่าเรื่องผ่านคลิปในโลกออนไลน์ให้คนอื่นได้รับรู้ตัวเรื่องทำมาเป็นแนวสมมุติเรื่องผ่านเรียลฟุตเทจจากกล้องให้เหมือนเรื่องจริง ก็แบบแนวร่างทรงหรือเก่าๆ เลยก็ The Blair Witch Project ผสมกับไอเดียแนวเรื่องของ The ring คำสาปมรณะผ่านวิดีโอเทป ซึ่งถ้าคนที่ไม่เคยดูเดอะริงมาก่อนก็คงแอบว้าวสนุกไปกับพล็อตเรื่องที่เริ่มต้นเตือนคนดูว่านี่คือคำสาป ถ้าดูกับรู้เรื่องจะมีอันเป็นไป ซึ่งมันได้ผลยั่วผู้ชมให้อยากดูได้แน่นอน แต่สำหรับคนที่เคยดูเดอะริงมาแล้วการที่เรื่องขึ้นต้นก็อปกันมาตรงๆ แบบนี้เป็นอะไรที่รู้สึกเฟลขึ้นมาทันที ดูหนังออนไลน์ 

และไม่ใช่แค่เริ่มต้นเหมือน ตอนท้ายคลี่คลายปมก็ยังมาแนวเดอะริงอีก ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่พล็อตหรือไอเดียใหม่เลย แต่แค่นำเอาแนวเรียลฟุตเทจมาผสมกับเดอะริงให้ออกมาเป็นเรื่องนี้เท่านั้นเอาเป็นว่าถ้าตัดเรื่องพล็อตเหมือนเดอะริงออกไป ว่ากันด้วยเรื่องจุดเด่นของเรื่องนี้ก็มีอยู่ ด้วยการครีเอทฉากเรียลฟุตเตจสยองๆ ไว้มากมายทั้งเรื่อง เป็นหนังที่เรียกว่าเน้นตัดเรียลฟุตเทจฉากสยองๆ ลึกลับน่ากลัวมาให้ดูโดยเฉพาะ ทั้งความแหวะของสิ่งที่ถ่ายมาอย่างหนอนจำนวนมาก น้ำเหลืองเละๆ บนตัว ฉากทำร้ายตัวเองเพราะโดนคำสาปแบบสยองๆ หรือแนวผีที่มีแต่เด็กมองเห็นก็ใช้บ่อย ดูหนังฟรี

ฉากศาลเจ้าจีนเอเชียที่เป็นเมนหลักของเรื่องดูยังไงก็น่ากลัวแต่แรกอยู่แล้วด้วยยิ่งเพิ่มความสยองเข้าไปอีก ฉากตุ้งแช่ก็ทำได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆ เรียกว่าใครขวัญที่ขวัญอ่อนดูเรื่องนี้อาจจะรับไม่ไหวเลยก็ได้ เป็นหนังที่สร้างกับเสิร์ฟจุดขายนี้ด้วยเรียลฟุตเทจออกมาได้ดีจนต้องชม

รีวิว มนตรา

แม้การตัดฟุตเทจหลอนๆ สยองๆ มาเสิร์ฟผู้ชมต่อเนื่องจะออกมาดี แต่ตัวเรื่องเองจริงๆ กลับเป็นปัญหาจากจุดนี้เช่นกัน เพราะกลายเป็นการทำให้ลำดับเรื่องดูงงๆ เข้าใจยากแบบที่ไม่ควรจะทำให้ดูยากแบบนี้เลย ตัวเรื่องเริ่มจากปัจจุบันที่นางเอกแม่ของเด็กเล่าถึงที่มาของวิดีโอที่กำลังจะเปิดให้คนดูกันผ่านโลกออนไลน์ แล้วเล่าย้อนว่าไปโดนคำสาปจากไหนเป็นฉากสั้นๆ ของแก๊งท้าล่าผีสมัยก่อนของเธอที่ไปบุกอุโมงค์ในศาลเจ้าแห่งหนึ่ง

ตัดสลับกับเหตุการณ์เลี้ยงลูกบุญธรรมของเธอที่มาโดนคำสาปไปด้วย รวมกับการพยายามเล่าเรื่องในตอนที่เปิดเทปนี้ให้ดู แล้วก็ยังมีฟุตเทจของกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์ต่างๆ กับตัวละครเสริมประกอบเรื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นฉากสั้นๆ ตัดสลับไปมาแบบไม่มีจุดบอกว่านี่คือเวลาไหน ช่วงไหน ให้ผู้ชมคิดเอาเอง ซึ่งก็ไม่ถึงกับงงในช่วงเวลามาก แต่จะงงกับการที่เล่าเรื่องกระโดดไปมานี่แหละ ทำให้เรื่องดูเข้าใจยากโดยใช่เหตุ แอบปวดหัวนิดๆ ต้องคิดต่อเรื่องให้ติดเอง ถือเป็นจุดบอดเรื่องนี้เลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ความพยายามที่จะทำให้เรื่องดูเป็นเรียลฟุตเทจก็กลายเป็นหลายฉากดูฝืนๆ จะให้เป็นให้ได้ อย่างเด็กถือกล้องวิดีโอไปถ่ายนั่นนี่ ตัวแม่เจออะไรก็ถ่ายไม่หยุด แม้แต่ฉากโดนผีหลอกก็ยังจะต้องถือกล้องถ่ายไว้อีก ซึ่งดูเฟคมากจนทำให้ความเรียลฟุตเทจที่ว่ากลายมาเป็นส่วนทำร้ายหนังเองด้วยเช่นกัน

ตัวหนังพยายามเพิ่มดราม่าความสัมพันธ์แม่ลูกที่เธอไปรับมาแล้วพยายามเลี้ยงให้ดี เป็นแม่ที่ดี โดยมีตัวละครชายที่เป็นคนสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเป็นพ่อที่ห่วงใยเด็กคนนี้อีกคน แต่ด้วยความที่เรื่องมันเน้นตัดฉากมาเพื่อให้สยองน่ากลัวตลอด ผีก็หลอกพร่ำเพรื่อมาก ฉากดราม่าความสัมพันธ์ดีๆ อะไรพวกนี้ก็เลยไม่ทำให้รู้สึกอินเท่าไหร่ เหมือนเป็นแค่ส่วนที่พยายามทำให้ตอนจบของเรื่องนี้ดูมีเหตุผลของคนเป็นแม่เพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ตอนจบที่คาดเดายากอะไรเลย เผลอๆ คนดูรู้แต่แรกเริ่มแล้วด้วยว่าจะจบแบบนี้ครับ

เป็นหนังผีที่น่ากลัวจริง ฉากเรียลฟุตเทจก็ทำได้ดี (แม้จะดูเฟคๆ เยอะ) แต่มามีปัญหาหลักๆ กับการเล่าเรื่องตัดสลับทำให้เรื่องดูยากแบบไม่เข้าท่า แล้วถ้านับความเหมือนกับพล็อตเรื่องกับคอนเซ็ปต์ของเดอะริงด้วย ทำให้แฟนๆ เดอะริงคงไม่ปลื้มกับเรื่องนี้นักครับ

ถ้าหากว่าปีที่แล้ว..เราเคยสะดุ้งไปกับความหลอนของไทยสุดสะพรึง อย่าง “ร่างทรง” มาแล้ว มาในปีนี้เรามาเผชิญหน้ากับความเร้นลับและหลอนชวนสะอิดสะเอียนจากไต้หวัน นี่คือ “Incantation มนตรา” หนังสยองขวัญที่ถล่มรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นี่คือหนังสยองที่มาแนววิดีโอฟุตเทจที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรแล้ว แต่มีทีเด็ดในสตอรี่และการเล่าเรื่องนี้ที่เขย่าขวัญผู้ชมได้ดีในชั่วโมงสุดเฮี้ยน!

รีวิว มนตรา

Incantation มนตรา เป็นเรื่องราวของ หลี่รู่หนาน คุณแม่ยังสาวที่กำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียลูกสาวของตัวเอง จากคำสาปมนตราที่เธอเองก็ยังไม่มีความรู้ ดังนั้นเธอจึงเริ่มต้นที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเอาไว้ เป็นหลักฐานและข้อมูลที่เกิดขึ้นกับเธอกับลูกเอาไว้ เพื่อแชร์ให้กับผู้ที่สนใจได้ศึกษา แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้อนาคตเช่นเดียวกันว่า ลูกสาวกับเธอจะรอดปลอดภัยได้หรือไม่

ก่อนอื่นใด…ด้วยความหวังดีถึงคุณผู้อ่านและผู้ที่อยากดูหนังเรื่องนี้ทุกคน ถ้าหากว่าคุณมีอาการหวาดกลัว (Phobia) อะไรต่าง ๆ สารพัดอยู่แล้ว อยากจะแนะนำว่าไม่ควรดูหนังเรื่องนี้ก็ได้ เพราะนี่คือการรวมสารพัดความกลัวหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กลัวเลือด กลัวฟัน กลัวรู กลัวหนอน รวมไปถึง กลัวผี และอะไรอีกเยอะแยะ ใส่เต็มเหนี่ยวมาในหนังเรื่องนี้แบบไม่มีใช้มุมกล้องใด ๆ

คุณจะรู้สึกหลอนทุกครั้งที่ได้คิดประโยคที่ว่า “พวกคุณเชื่อในการอวยพรไหม? 6 ปีก่อนฉันเคยทำผิดให้ข้อห้ามที่น่ากลัว ช่วยฉันด้วย มาท่องพร้อม ๆ กัน หรือจะท่องในใจก็ได้…” แน่นอนว่าหนังสไตล์ found footage ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่อะไรกับวงการหนังอีกต่อไปแล้ว เพราะผู้ชมต่างคุ้นชินจากใน The Blair Witch Project และ Paranormal Activity หรือแม้กระทั่ง ร่างทรง หนังไทยเมื่อปีก่อนก็ทำออกมาในลักษณะนี้

แต่สำหรับ Incantation มนตรา นั้น แม้จะไม่ได้มีสไตล์ที่แปลกใหม่ แต่กลับใช้วิธีการเล่าเรื่องที่เข้มข้นสุดหลอนไปตลอดทั้งเรื่อง หนังมีเพียงโครงเรื่องที่ไม่ได้เยอะมาก แต่ค่อย ๆ ใช้ฟุตเทจภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ มาใช้เป็นการเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ พาผู้ชมไปสำรวจแต่ละมุมมอง ทั้งจากในอดีตและปัจจุบัน ท่ามกลางฉากน่ากลัวมากมายที่สอดแทรกเอาไว้แบบไม่ต้องอาศัยการเชื่อมโยงจังหวะใด ๆ แต่เป็นความสมจริงที่ออกมาการแสดงที่มีเซ็กเมนต์ที่ค่อนข้างน่าสนใจดี

ถึงแม้ว่ารูปแบบความเชื่อและการศรัทธาบูชาที่ใส่อยู่ในหนังเรื่องนี้นั้น อาจจะเป็นความเชื่อเฉพาะส่วนบุคคล และเป็นเชื่อที่ต่างวัฒนธรรมของแต่ละประเทศกันไป แต่เชื่อว่าคนไทยก็น่าจะสัมผัสได้ถึงความหลอนและความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ที่สอดแทรกใส่เข้ามาได้อย่างสุดทางกำลังพอดี อีกทั้งยังสามารถอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ให้กับผู้ชมได้เห็นมากที่สุด ถึงจะทิ้งเบาะแสและปมเอาไว้เยอะแยะที่อาจจะยังไม่สามารถเข้าถึงและเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ได้ก็ตาม

“เควิน โค” ที่ถือว่าเป็นนักสร้างหนังรุ่นใหม่ของไต้หวัน ถือว่าประสบความสำเร็จกับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะหยิบยืมใช้เทคนิคจากหนังสยองแบบเดิม ๆ มาใช้ แต่ก็มีลูกเล่นและเทคนิคการเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิงและรู้จังหวะอารมณ์ที่ผู้ชมอยากสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ และทำให้ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ออกมาค่อนข้างถึงใจถึงอารมณ์ และไปได้เกือบจะสุดทาง

โปรดักชั่นของ Incantation มนตรา ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้ว่ามุมกล้องฟุตเทจต่าง ๆ จะมีดูสมจริงและปลอมประหลาดปะปนกันไปบ้าง แต่ก็กลายเป็นจุดบกพร่องที่สามารถมองข้ามไปได้ เพราะการเล่าเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านการแสดงนั้น หนังไม่ได้ใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายอะไร แต่ “ช่ายเกิ้นเย่” ก็ถือว่าแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ค่อนข้างดี เป็นศึกหนักของเธอ แต่เธอก็ทำออกมาได้ดีไม่น้อย

เอาเป็นว่าในภาพรวมนั้น Incantation มนตรา ก็คืออีกหนึ่งหนังผีไต้หวันที่ขึ้นแท่นเป็นระดับมาสเตอร์พีชของปีนี้ได้โดยปริยาย แม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ อาจจะไม่สดใหม่ และก็มีกลิ่นอายเดิม ๆ แบบฉบับหนังผีไต้หวันที่มักจะเล่นกับความเชื่อและความผูกพัน แต่หนังเรื่องนี้ก็มีสตอรี่ที่หนักแน่นเพียงพอที่จะประคองผู้ชมไปได้ อีกทั้งยังได้วิสัยทัศน์ที่ดีจากผู้กำกับ ที่รู้จังหวะและสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังเอาไว้ และนั่นก็คือการตอบโจทย์เหมือนกับบทสรุปของหนังที่ทะเยอทะยานและน่าจดจำเป็นอย่างดี…

ในค่ำคืนแห่งการเคารพบูชาเจ้าแม่ เหล่าบรรดาขบวนการล่าผีก็หนีออกจากห้อง แล้วแอบเข้าไปยังถ้ำต้องห้าม โดยที่อาตงกับอาหยวนเป็นผู้เข้าไป เข้าไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงโวยวาย อาหยวนวิ่งออกมาแบบขาดสติ ส่วนอาตงเมื่อออกมาแล้วก็เสียชีวิตทันที

จากนั้นความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในหมู่บ้านของอาเฉิน ทุกคนผิดปกติราวกับเป็นบ้า จากนั้นก็พากันทำร้ายตนเอง แล้วก็เสียชีวิตทั้งหมู่บ้าน รวมถึงอาตงด้วย โชคดีที่รั่วหนานสามารถขับรถหนีออกมาได้ทันพร้อมกับกล้องวีดีโอที่ถ่ายเหตุการภายในถ้ำได้ แต่เธอก็ไม่เหมือนเดิม มีอาการหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา กูว่าปีศาจจะมาทำร้าย และนี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูตั่วตัวให้กับสังคมสงเคราะห์ที่เอาไปเลี้ยงถึง 6 ปี

อย่างไรก็ตามเมื่อรั่วหนานนำตั่วตัวมาเลี้ยงแล้ว ก็เกิดความผิดปกติมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นเจ็บไข้ได้ป่วยแบบไม่มีสาเหตุ มีลักษณะเป็นอาการอัมพาตช่วงครึ่งล่าง ซึ่งเธอเองก็รู้ดีว่านี่น่าจะเกี่ยวข้องกับคำสาปของเจ้าแม่อย่างแน่นอน เธออุ้มตั่วตัวไปให้ผู้ดูแลศาลเจ้าให้ช่วยแก้ไขเรื่องราวร้ายนี้ คนดูแลศาลเจ้าก็แนะนำว่าให้ตั่วตัวอดข้าวอดน้ำเป็นเวลา 7 วัน

แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถทำได้เมื่อขาดน้ำขาดสารอาหารร่างกายก็เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างรวดเร็ว มีแผลพุพองไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะแผลที่เป็นรูเล็กรูน้อย เธอจึงจำเป็นต้องอุ้มลูกสาวขับรถไปหาหมอในยามดึก แต่หมอก็บอกว่าเด็กจะต้องกินข้าวกินน้ำซะก่อนไม่อย่างจะฉีดยาให้ไม่ได้ แต่เนื่องจากเธอกลัวอาถรรพ์เธอจึงต้องทำการรักษาเอง

แต่มันก็เลวร้ายลงมากยิ่งขึ้น เธอจึงฝืนคำสั่งของผู้ดูแลศาล แล้วให้ลูกของเธอนั้นกินอาหาร แต่เมื่อยิ่งกินก็ยิ่งเลวร้ายลงไป เธอจึงจำเป็นจะต้องพาตั่วตัวไปโรงพยาบาล ตั่วตัวอยู่ในอนการโคม่า ลั่วหนานทำได้เพียงท่องมนต์ “โหโฮซิวอี ซีเซ้อู่มา” ไปเรื่อย

แต่โชคร้ายที่นักสังคมสงเคราะห์นั้นได้รับอาถรรพ์จากการดูวีดีโอเทป ที่เขาสามารถกู้ไฟล์ได้ทั้งหมดเข้าไปเต็ม ๆ เขาเห็นว่าอาตงกับอาหนานเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้วได้เจอกับอะไรบ้าง เจอถ้ำที่สร้างด้วยมือมนุษย์ที่มีทางเดินคดเคี้ยวเลี้ยว แต่ละทางเลี้ยวก็จะมีกระจกวางไปทั่ว มีรูปปั้นของเจ้าแม่ มีเครื่องเครื่องสังเวยที่ตัดมาจากปอยผม เจอฟัน

และท้ายที่สุดก็เจอประติมากรรมเจ้าแม่ที่มีลักษณะเป็นแบบพุทธมหายานนิกายตันตระ ซึ่งเทวรูปนี้ก็ถูกผ้าแดงพันปิดหน้าเอาไว้ และอาหนานก็ไปเปิดผ้าแดงเพื่อดูหน้า เมื่อเขาเห็น เหตุการณ์เลวร้ายก็เกิดขึ้นกับเขา อาตงและทุกคนในตระกูลเฉิน จนทำให้สิ้นทั้งตระกูลเลยทีเดียว

ความโหดร้ายน่ากลัวที่เห็นนั้น ทำให้นักสังคมสงเคราะห์ ตัดสินใจจะไม่ส่งไฟล์วีดีโอทั้งหมดไปให้รั่วหนานชม แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเขาสิ้นใจไฟล์วีดีโอก็ถูกส่งไปให้รั่วหนานทั้งหมดแล้ว

รั่วหนานรู้ว่ามีทางเดียวที่จะสามารถช่วยตั่วตัวได้ คือต้องกลับไปที่หมู่บ้านของตระกูลเฉิน กลับไปที่ถ้ำต้องห้าม เธอได้อัดวีดีโอเทปเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งลา แล้วก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเราที่เป็นคนดูได้รับรู้รับ