รีวิว A Nightmare On Elm Street

รีวิว A Nightmare On Elm Street

ดูหนังเถื่อน แฟรนไชส์หนังสยองขวัญอันโด่งดังที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ ‘นิ้วเขมือบ’ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งกล่าวถึงเด็กชายคนหนึ่งที่ฝันว่าถูกบางสิ่งไล่ล่าอยู่ในฝัน แต่บอกใครก็ไม่มีใครเชื่อ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในเช้าวันต่อมา และนี่ก็คือจุดกำเนิดของ A Nightmare On Elm Street ว่าด้วยราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่พยายามจะตื่นอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อไรที่เธอหลับตา ชายแปลกหน้าสวมกรงเล็บแหลมคมก็จะปรากฏตัวขึ้นมาในฝัน และตามไล่ล่าเธอจนถึงแก่ความตายในชีวิตจริง รีวิว A Nightmare On Elm Street เว็บดูหนังเถื่อน รีวิวหนังผี

หนังฟรี ตำนานแห่งฝันร้ายของ “เฟรดดี้ ครูเกอร์” ดูเหมือนว่าความนิยมยังไม่หมดสิ้น เพราะเรื่องราวได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์จนถึง A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หนังใหม่

ดูหนังออนไลน์ ส่วน A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 จะมีความน่าสนใจสักเพียงใด น่าดูหรือเปล่า!? สำหรับประเด็นนี้คงต้องลองมาติดตามรีวิวจากบทความชิ้นนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรค่ากับการเปิดเพื่อรับชมเพิ่มความสยองให้กับคืนที่น่าเบื่อหน่ายกันหรือเปล่า!? ดูหนัง

ดูหนัง หนังผี A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 เป็นเรื่องราวของอดีตวัยรุ่นผู้รอดชีวิตจากฝันร้ายของเฟรดดี้ ครูเกอร์ ดูหนังออนไลน์ เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับฝันร้ายและนำทุกสิ่งมามอบให้เป็นบทเรียนกับวัยรุ่นกลุ่มใหม่ที่กำลังทุกข์ทรมานจากฝันร้ายที่หลอกหลอนพวกเขา เพื่อต่อสู้ฝันร้ายกลับก่อนที่จะถูกมันกลืนกิน ดูหนังฟรี

หนังผี A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 ถือว่ามีเนื้อหาที่ค่อนข้างสนุกและมีฉากสยองขวัญที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในส่วนของ CGI ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากสองภาคแรกแบบก้าวกระโดดอย่างมากเลยทีเดียว

รีวิว A Nightmare On Elm Street

โครงเรื่องของหนังผี A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 ก็ได้รับการพัฒนามากขึ้นอย่างมากเช่นกัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นตรงที่เผชิญหน้าและวิ่งหนีจากเฟรดดี้ในความฝันเหมือนกับที่ผ่านมา แต่เป็นการใช้ลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามาในการต่อกรที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีการพูดถึงเรื่องราวอื่นของเฟรดดี้ในอดีตที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับฝันร้าย

ในส่วนของบทบาทตัวละคร เป็นที่น่าแปลกใจว่าตัวละครใน หนังผี A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 แทบไม่มีการตัดสินใจโง่ ๆ ชวนให้หงุดหงิดใจให้เห็นเหมือนกับหนังสยองขวัญในท้องตลาดทั่วไป นอกจากนี้นักแสดงนำเองกก็ยังสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับส่วนด้อย อาจจะเป็นความเว่อร์ของการต่อสู้ในความฝันของเหล่าตัวละครหลักที่ค่อนข้างจะออกมาเหนือจินตนาการไปสักหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พอรับได้ และถึงแม้ว่าแก่นเรื่องจะทำออกมาได้ดี แต่การดำเนินเรื่องในหลายจุดก็ยังทำออกมาได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ก็อาจจะเป็นตามสมัยนิยมก็เป็นไปได้

โดยรวมแล้ว หนังผี A Nightmare on Elm Street 3 Dream Warriors นิ้วเขมือบ ภาค 3 ถือว่าสนุก! บางทีอาจจะสนุกมากว่าภาคแรกด้วยซ้ำไปอย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าควรดูสองภาคก่อนหน้านี้มาก่อน เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิหลังของตัวละครทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมในการรับชมมากขึ้นกว่าเดิม

พอได้ยินข่าวการรีเมคนิ้วเขมือบ พร้อมทั้งข่าวที่ว่าพี่ Robert Englund ที่ผูกขาดบทนี้มาตลอดจะไม่มาเล่นเป็นเฟรดดี้ ผมก็เกิดความหนักใจแทนทีมงานทันทีครับ เพราะโจทย์ที่ยากที่สุดคือ จะทำยังไงให้คอหนังสยองที่เป็นแฟนเฟรดดี้ ครูเกอร์มากกว่า 30 ปียอมรับในเฟรดดี้คนใหม่ ที่แสดงโดย Jackie Earle Haley

รีวิว A Nightmare On Elm Street

รีวิว A Nightmare On Elm Street

เพราะถ้ามองดีๆ จะพบว่าการที่ตัวละครเฟรดดี้ ครูเกอร์เป็นอมตะในโลกภาพยนตร์มาจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะลีลาการแสดงแบบ “ขี้เล่นอำมหิต” ที่ยากจะหาใครมาเปรียบได้ของพี่ Englund นั่นเอง ซึ่งของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่คนกำกับหรือบทหนัง หรือเทคนิค CG ใดๆ แต่มันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของนักแสดงเอง

ที่สำคัญ หน้าพี่เฟรดดี้ที่ตราตรึงคนดูมานาน ก็มีอยู่หน้าเดียว ไม่เคยเปลี่ยนมาตั้ง 30 ปี ครั้นจะเปลี่ยนเป็นคนที่ แฟนๆ ก็คงลำบากใจที่จะเรียกปีศาจในฝันตัวใหม่ในฉบับรีเมคนี้ว่า เฟรดดี้ ครูเกอร์

จริงๆ นะครับ มอนสเตอร์ตัวอื่นๆ มันยังเปลี่ยนคนเล่นได้ เพราะส่วนมากเราจะไม่เห็นหน้าคนแสดงหรอก อย่าง พี่เจสัน วอร์ฮีส์ ก็สวมหน้ากากฮ็อกกี้ทั้งปี, ไมเคิล ไมเยอร์ส จะเปลี่ยนตัวแสดงก็ไม่ว่า เพราะยังไงคนดูก็ได้เห็นแค่หน้ากากขาวซีดอยู่แล้ว, ไอ้หน้าหนัง เลธเธอร์เฟซ ก็พอกันครับ สวมหน้ากากหนังคนตลอด, เอเลี่ยน ก็มีแต่คนชักรอกกับใช้ CG ทำ หรือเจ้าตัวกลิ้ง งับ งับก็ใช้โยนลูกบอลมีขนให้มันกลิ้งเอา

แต่กับเฟรดดี้ ครูเกอร์นี่ ต้อง Englund เท่านั้นจริงๆ ซึ่งจะว่าเขาโชคดีก็ได้ครับ เพราะแม้จะเล่นเป็นมอนสเตอร์ในหนังสยอง แต่ก็เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ไม่กี่ตัว ที่ได้โชว์หน้าหล่อๆ ของตัวเองตลอด บนจอหนังทุกผืน ทีวีทุกเครื่อง และโปสเตอร์ทุกใบ (เท่าที่นึกออก นอกจากพี่เฟรดดี้ ก็มีพี่พินเฮดนี่แหละครับ ที่ยังไงก็ต้อง Doug Bradley เท่านั้น)

และก็ต้องยอมรับครับ ว่านิ้วเขมือบภาคหลังๆ ที่คนดูชอบกัน ดูกันมาตลอดนั้น ก็เพราะการแสดงของ Englund ที่น่ากลัว แต่ก็น่ารัก (แบบโหดๆ) คอยดึงคนเข้าโรงตลอด ส่วนเนื้อเรื่องแต่ละตอนเป็นไง บางคนยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ จำได้แค่หน้าพี่ Englund กับกรงเล็บของเขานี่แหละ

ผมจึงไม่ห่วงเรื่องบทหรอกครับ เพราะถ้าตั้งใจมันก็สร้างสรรค์ให้น่าติดามได้ แล้วก็ไม่ห่วงเรื่อง Effect ด้วย เพราะ CG สมัยนี้มันต้องดีกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้วแน่นอน แต่ห่วงอย่างเดียว… คนจะรักพี่เฟรดดี้คนนี้เท่าคนก่อนไหมหว่า

นิ้วเขมือบภาครีเมคนี้ จริงๆ แล้วมีอะไรเข้าท่าไม่น้อย อย่างการเล่นโทนสีในแต่ละฉาก (แดงๆ เหลืองๆ ขาวๆ หรือฟ้าๆ ตามแต่อารมณ์ของฉากนั้น) หรือพวกฉากในฝันร้ายของวัยรุ่นแต่ละคนนั้น ก็ทำออกมาได้เข้าท่าครับ มันชวนสยอง และหลายฉากทีเดียวที่พลิกความคาดหมาย กล่าวคือพวกงานด้าน CG ด้านภาพ หรืออารมณ์หลอนในฝันนั้นไม่เลว

ถ้าพูดถึงในฐานะหนังสยองสักเรื่อง ผมว่านิ้วเขมือบภาคนี้ก็ใช้ได้อยู่ครับ มันก็น่ากลัว ตื่นเต้น มีลุ้นอยู่พอสมควร

แต่เผอิญนี่มันดันไม่ใช่หนังสยองสักเรื่อง แต่มันคือ นิ้วเขมือบฉบับรีเมคและรีอิมเมจิน ทำให้แค่ความสยอง แค่มีหลืบมืดๆ และเลือดสาดนั้นยังไม่พอ

เอาล่ะ ที่เข้าท่าก็บอกไปแล้วนะครับ ทีนี้มาถึงที่มันเหมือนจะเข้าท่าบ้าง นั่นคือ ลีลาการเดินเรื่อง

โดยพล็อตแล้ว จริงๆ มันก็คือนิ้วเขมือบภาคแรกนี่แหละ ว่าด้วยวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ฝันร้ายบ่อยๆ และในฝันก็มักจะมองเห็นชายท่าทางน่ากลัว สวมหมวกและเสื้อมองตากูลายเขียวแดง จากนั้นสักพักพวกเขาก็เริ่มตายทีละคนๆ ตายทั้งๆ ที่หลับนั่นแหละครับ จนทำให้ แนนซี่ ฮอลบรู๊ค (Rooney Mara) หนึ่งในวัยรุ่นกลุ่มนี้ต้องหาทางสืบว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีอะไรกำลังตามล่าพวกเขาหรือเปล่า และเจ้าผู้ชายลึกลับในฝันนั่นคือใคร

ครับ พล็อตหลักเดิม แต่ลีลาการเดินเรื่องต่างออกไป (แอบสร้างสรรค์น่ะครับ) จากเดิมที่ต้นฉบับนั้นมีธีมสยองเป็นแกนหลัก ส่วนเรื่องตามสืบความจริงเป็นแกนรอง แต่พอมาฉบับนี้หนังพยายามดันประเด็นการสืบสวนให้เด่นพอๆ กับความสยองครับ ซึ่งส่วนนี้แหละ ที่จะว่าไปก็เข้าท่าดี และผมว่าถ้าใครที่ไม่คุ้นเคยกับหนังนิ้วเขมือบมาก่อน ก็น่าจะโอเคกับจุดนี้อยู่ เพราะมันไม่ใช่แค่หนังสยองไล่ฆ่า แต่มันยังมีปมลึกลับซ่อนเงื่อนซ่อนอยู่ ชวนให้คนดูสงสัยว่าตกลงเฟรดดี้เป็นคนร้ายหรือเป็นแค่เหยื่อศาลเตี้ยเท่านั้น

แต่สำหรับคนดูที่คุ้นกับหนังนิ้วเขมือบ อาจไม่รู้สึกอะไรมากนัก เพราะรู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า เฟรดดี้นี่แหละ มารในฝันตัวพ่อเลย มันเป็นตัวร้ายชัวร์ๆ

ลีลาการเดินเรื่องนี้เลยน่าสนใจอยู่ครับ เพราะมันทำให้ตัวเฟรดดี้ดูร้ายลึกขึ้น (เนื่องจากมันมาพร้อมแผนและการล่อหลอก) เหมือนกับทีมงานอาจเดาได้เหมือนกันครับ ว่าลำพัง Haley มาเล่นเป็นเฟรดดี้ อาจจะยังมีพลังบารมีเทียบเจ้าเก่าอย่าง Englund ไม่ได้ ทีมงานก็เลยพยายามช่วยด้วยบท เสริมความร้ายแบบเจ้าเล่ห์ลงไป