รีวิว old people

ดูหนังเถื่อน หนังสยองขวัญที่เอาไอเดียเรื่องสังคมผู้สูงอายุล้นโลกมาผสมกับแนวกึ่งๆ ซอมบี้ให้เป็นคนแก่ลุกขึ้นบ้าคลั่งทั้งโลก ซึ่งไอเดียตั้งต้นถือว่าดีเลย แต่ในเรื่องกลับไม่มีการสานต่ออะไรมากกว่านั้น เป็นแค่หนังสยองขวัญที่ใช้คนแก่กับภาพลักษณ์คนแก่มาทำให้น่ากลัว ซึ่งก็ได้ผลในจุดนี้ แต่ตัวละครคนปกติดันติดบทงี่เง่าตามสูตรหนังแนวนี้ไม่เปลี่ยนจนดูไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ตัวเรื่องก็จบลงแบบง่ายๆ ปลายเปิดแบบล่องลอยไปหน่อย ทำให้ไม่มีอะไรน่าจดจำสักเท่าไหร่ เลยเป็นได้แค่หนังฆ่าเวลาเรื่องหนึ่งไปเท่านั้นครับ รีวิว old people รีวิวหนังผี ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี 

เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่คงเอาไอเดียจากปัญหาประชากรผู้สูงอายุมากกว่าวัยทำงานที่ทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่ มาดัดแปลงเข้ากับแนวซอมบี้ตามสมัยนิยม จนกลายมาเป็นเรื่องนี้ที่เหมือนหนังซอมบี้เวอร์ชั่นคนแก่นั่นเอง

ตัวเรื่องเริ่มด้วยปรากฎการณ์ประหลาดที่คนแก่ลุกขึ้นมาเข่นฆ่าผู้คนทั่วโลกตั้งแต่เปิดเรื่องในเมืองใหญ่ แต่คงเพราะสเกลทุนสร้างหนังคงไม่พอเลยเลือกโฟกัสที่เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งแทน โดยมีตัวละครกลุ่มหนึ่ง แม่ลูกสองที่กลับมาที่นี่เพื่อมาหาพ่อที่ฝากไว้ที่บ้านพักผู้สูงอายุที่ถูกตัดงบเกือบเหมือนทิ้งร้าง ก่อนที่จู่ๆ คืนนั้นเองคนแก่ทั้งหมดในบ้านพักก็ลุกขึ้นไล่ฆ่าคน จนทำให้พวกเขาต้องหนีตาย โดยที่ก็ระแวงว่าพ่อของเธอจะกลายเป็นแบบพวกเขาด้วยหรือไม่

ตัวหนังเหมือนจะมีที่มาที่ไปลางๆ ของเหตุการณ์ทำนองว่าอ้างอิงจะไบเบิลนิดๆ ในประโยคที่เป็นเหมือนคำทำนายว่าคนแก่จะมีจำนวนมาก คนหนุ่มสาวต้องทำดีต่อพวกเขาเพราะต่อไปก็ต้องแก้ชราลงเหมือนกัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันคนแก่มักถูกละเลยลูกหลาน จนทำให้เกิดอะไรบางอย่างเปลี่ยนให้คนแก่กลายเป็นคนบ้าคลั่งจนเกิดกลียุคนี้ขึ้นมา ซึ่งเอาจริงๆ ก็อาจจะมองข้ามได้ไม่ติดใจนักว่าที่มาไม่ต้องชัดเจนก็ได้ แบบหนังซอมบี้หลายเรื่องก็อาจจะข้ามๆ ส่วนนี้ไปเพื่อโฟกัสฉากสยองขวัญการหาทางรอดชีวิตของตัวละครมากกว่า

ตัวเรื่องใช้คนแก่+ความแก่ชราเป็นตัวสะท้อนความน่ากลัว อย่างรูปลักษณ์โทรมๆ ที่ถูกปล่อยปละละเลยสกปรก อ๊วกเละเทะ นอนจมกองขี้ การเคลื่อนไหวช้าๆ สายตาเหม่อลอย อะไรทุกอย่างที่ปกติดูน่ารังเกียจ+น่ากลัวลึกๆ ถูกนำมาใช้สร้างภาพให้คนแก่ในเรื่องดูสยอง ซึ่งก็ได้ผลเพราะในขณะที่ยังไม่เข้าเรื่องคนแก่ลุกขึ้นมาบ้าคลั่งก็ยังดูน่ากลัวในระดับหนึ่ง แล้วพอถึงเวลาที่ลุกมาบ้าก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความน่ากลัวขึ้นไปอีกโดยมาเป็นฝูงแบบซอมบี้ แล้วก็ยังอัพเกรดให้มีแรงเคลื่อนไหวได้ไว วิ่งได้ ไม่ได้เดินช้าแบบคนแก่ปกติ ซึ่งจริงๆ จะบอกว่าเป็นหนังซอมบี้ก็ยังได้เลย เพียงแค่สามารถฆ่าให้ตายได้แบบคนปกติไม่ใช่อึดแบบต้องยิงหัวเท่านั้น

ตัวเรื่องทำฉากพวกนี้ได้น่าขนลุกแบบโอเคเลย แต่ปัญหากลับเป็นตัวละครคนปกติในเรื่องมากกว่าที่บอกตรงๆ ว่าก็ยังเข้าสูตรตัวละครโง่ตามหนังสยองขวัญอยู่เหมือนเดิม แบบชอบไปเปิดประตูดู หรือมีทางฆ่าได้แต่ก็ไม่ฆ่า มีปืนไว้ก็ไม่ยิง เอาแต่หนี แถมยังสร้างดราม่าทะเลาะกันแย่งผู้ชายในระหว่างเรื่องอีก ซึ่งกลายเป็นดูแล้วน่าหงุดหงิดกับความคิดของตัวละครในเรื่องมากพอดูเลย

ตัวเรื่องจบลงแบบปลายเปิดง่ายๆ ก็คือทิ้งเรื่องไว้เลยว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทั่วโลกเหมือนตอนเปิดเรื่องที่เล่าไว้แต่แรก ซึ่งจริงๆ ไอเดียเรื่องถือว่าดี แต่กลับไม่ได้มีการคิดสานต่ออะไรจากนั้นเลย แค่เอามาทำให้เป็นเรื่องสยองขวัญแบบจบแล้วก็จบ ไม่มีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ ก็เลยกลายเป็นแค่หนังฆ่าเวลาเรื่องหนึ่งไปเท่านั้นครับ

แรกเริ่มดูตัวอย่างหนังคาดหวังว่ามันจะเป็นหนังสยองขวัญสั่นประสาท ที่ออกไปทางหนังผีแบบ ‘The Taking of Deborah Logan’ (2014) ด้วยบรรยากาศของภาพคนแก่ภายใต้แสงที่ผิดธรรมชาติมองอย่างเยือกเย็นตรงมายังกล้อง แต่ว่ากันตามตรง ‘Old People’ หรือ ‘เกิด แก่ กัน ตาย’ เป็นหนังที่เข้าข่ายตระกูลหนังไล่เชือดที่มีกลิ่นแบบหนังซอมบี้เสียมากกว่า

ด้วยความเชื่องช้าแบบคนสูงวัย และผิวหนังที่เป็นกระเหี่ยวย่นผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ฟันที่เหยเก น้ำลายเยิ้ม และดวงตาที่จ้องนิ่งขมึงตึง ซึ่งอาจรวมถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดที่คล้ายผลจากโรคอย่างสมองเสื่อมก็ทำให้รูปลักษณ์ของพวกคนแก่ในเรื่องดูเป็นอสุรกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ และหลายครั้งบรรยากาศความกดดันของพวกเขายังทำให้นึกถึงชายตาบอดใน ‘Don’t Breathe’ (2016) เสียด้วยซ้ำ แม้จะดูดิบกว่าและไม่สร้างสรรค์เท่า

ซึ่งตัวผู้กำกับเชื้อสายเยอรมัน-โรมาเนีย แอนดี้ เฟตเชอร์ (Andy Fetscher) ที่เคยมีผลงานสายโหดในประเทศตัวเองก็จัดหนักในหนังเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ของเขา ทั้งฉากการฆ่าที่เห็นกันจะจะ และแม้บางครั้งจะใช้มุมกล้องเข้าช่วยแต่ในแง่ความรุนแรงก็ยังท่วมท้นอยู่ดี โดยเฉพาะการแต่งแผลแต่งความบอบช้ำของเหยื่อที่ทำเอาขนลุกขนพองทีเดียว

ซึ่งน่าสนใจว่านอกจากแนวไล่เชือด ผลงานก่อนหน้าของเขาในเยอรมันก็มีหนังที่พูดถึงประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนและพื้นที่ชายขอบอยู่ด้วย เราจึงเห็นร่องรอยความคิดที่เฟตเชอร์สอดแทรกในเรื่องนี้ที่น่าสนใจ ด้วยข้อความที่เอากันโต้ง ๆ อย่าง “จงเคารพคนแก่ เพราะพวกเขามีจำนวนมาก และวันหนึ่งเจ้าก็จะกลายเป็นพวกเขา” ที่บ่งบอกปัญหาช่องว่างระหว่างวัยที่คนหนุ่มสาวทอดทิ้งคนชรามากขึ้น อย่างฉากที่พวกเขาเหม่อมองออกนอกหน้าต่างฟังเสียงดนตรีจากงานแต่งงานที่ลอยมาไกล ๆ อย่างเงียบเหงานั้นช่างน่าหดหู่เอามาก ๆ

รวมถึงนัยที่ตัวละครหัวหน้ากลุ่มคนแก่ที่คลั่งซึ่งได้บอกว่าสาเหตุที่พวกเขาลุกขึ้นไล่ฆ่าคนหนุ่มสาว ก็เพราะการปฏิบัติต่อคนแก่ที่ไม่ต่างจากสัตว์และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ดังที่เราเคยเห็นข่าวว่าสถานดูแลคนชราบางที่ปฏิบัติกับพวกคนแก่อย่างไม่ให้เกียรตินัก เช่นเอาสายยางฉีดล้างชำระตัว เป็นต้น

แต่ถึงจะมีเหตุจูงใจที่เด่นชัด สิ่งหนึ่งที่หนังไม่ได้ให้คำตอบกับเราเลยคือ แล้วทำไมคนแก่ทั้งหลายถึงคลุ้มคลั่ง แถมดูโรคจิตและทรงพลังขึ้น รวมถึงบางครั้งยังเหมือนสื่อสารกันทางจิตได้รับรู้ความคิดของพวกพ้องทั้งที่ไม่ได้คุยหรืออยู่ด้วยกันเลยก็ตาม ดูเหมือนผู้กำกับอยากจะทิ้งปริศนาเหล่านี้ให้เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่ยากเข้าใจ หรือไม่ก็ปูทางไว้สำหรับเผื่อได้สร้างภาคต่อด้วย

แต่อีกสิ่งที่น่าสนใจเช่นกันคือ แม้จะมีนัยที่พูดผ่านมุมมองของพวกคนชราที่อยากลุกขึ้นมาเอาคืนสังคมที่หลงลืมพวกเขา แต่การเล่าเรื่องกลับเน้นผ่านสายตาของคนหนุ่มสาวที่รับบทเหยื่อของเรื่อง ซึ่งทั้งน่าสงสารและน่าเอาใจช่วยอย่างมาก พร้อมข้อความสำคัญที่ชวนฉุกคิดว่า ทำไมถึงต้องเอาคืนพวกเขาอย่างรุนแรง ในเมื่อกลุ่มครอบครัวในเรื่องไม่เคยทำเรื่องไม่ดีกับพวกคนแก่ในหมู่บ้านนั้นเลย ตรงนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันว่าผู้สร้างตั้งใจสื่อสารอะไร

เป็นได้ทั้งว่าคนหนุ่มสาวถึงไม่ได้ทำไม่ดีกับคนแก่แต่แค่การเพิกเฉยต่อชะตากรรมของผู้สูงอายุก็ควรต้องรับผลกรรมแล้ว หรืออาจจะเป็นการพูดถึงช่องว่างของวัยที่ทำให้เข้าใจกันไม่ได้เสียที ต่างยึดถือความถูกต้องของตนเองทั้งสองกลุ่ม และพวกคนหนุ่มสาวก็กำลังหวาดกลัวที่พวกคนรุ่นก่อนไม่ปล่อยวางยุคสมัยให้พวกเขารับหน้าที่ขับเคลื่อนต่อไป รวมถึงความกลัวปัญหาสังคมผู้สูงวัยที่จะมีจำนวนมากขึ้น โดยวัยแรงงานมีน้อยลงแต่ต้องทำงานแบกรับภาระการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น

หนังให้คำตอบไว้แล้วว่าจะผ่านปัญหาความขัดแย้งระหว่างวัยอย่างไร ต้องลองไปดูเอาเอง แต่ว่ากันตามตรงสาระที่ว่ามาอย่างหนักหน่วงในเรื่องปัญหาสังคมนั้น แทบจะถูกความรุนแรงและโหดร้ายด้านภาพกลบไอเดียสร้างสรรค์มิดเหมือนกัน อย่างไรก็ดีนี่เป็นหนังเขย่าขวัญที่ดูเอามันเอาลุ้นในช่วงเดือนฮาโลวีนได้ดีเรื่องหนึ่งเลย และถ้าจะชวนคนพูดคุยถึงปัญหาสังคมในหนังได้ต่อก็จะยิ่งดีไปใหญ่เลย

Old People (2022) หรือในชื่อไทยว่า “เกิด แก่ กัน ตาย” ภาพยนตร์สัญชาติเยอรมันเรื่องใหม่ของ Netflix กำกับและเขียนบทโดย Andy Fetscher เริ่มสตรีมครั้งแรกในวันที่ 7 ตุลาคม 2022

เรื่องราวของ Ella Wagner (รับบทโดย Melika Foroutan) แม่บ้านลูกสอง ที่พาลูกๆ มายังเขตชนบท เพื่อร่วมงานแต่งของ Sanna (รับบทโดย Maxine Kazis) น้องสาวของเธอ ทั้งลูกสาวคนโตอย่าง Laura (รับบทโดย Bianca Nawrath) และ Noah (รับบทโดย Otto Emil Koch) ต่างก็ดีใจมากที่พวกเขาจะได้พบกับคุณตาและพ่อ (ที่เลิกรากับแม่ไปแล้ว) อีกครั้ง ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างปกติ จนกระทั่ง Ella ไปที่บ้านพักคนชราเพื่อเชิญ Reincke (รับบทโดย Adolfo Assor) พ่อของเธอไปร่วมงานในคืนนี้ด้วย ซึ่งทำให้เธอได้พบกับพฤติกรรมแปลกๆ ของคนแก่ ที่นำไปสู่การฆาตกรรมหมู่ ในเวลาต่อมา

นี่มัน Night of the Living Dead (1968) ชัดๆ แต่เปลี่ยนจากผีดิบไล่กินคน เป็นคนแก่ไล่ฆ่าหนุ่มสาว สวัสดีครับ ผม Chonla3 ภาพยนตร์เรื่องนี้มีหลายส่วนที่คล้ายกับหนังต้นกำเนิดแฟรนไชส์ซอมบี้ที่ผมเคยดูเมื่อหลายปีที่แล้ว ทั้งการไล่ล่าในตอนกลางคืน และฝูงคนแก่ที่พยายามเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่ง หรือไม่ บางทีผมอาจคิดไปเอง เหนือสิ่งอื่นใด ผมชอบที่ทีมสร้างดึงศักยภาพความกลัวของคนชราออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ใช้อะไรมาก ใช้แค่ผิวหนังแห้งกร้าน ความสงบนิ่งและม่านตาฝ้าฟางที่ส่อแววความโกรธแค้น เมื่อบวกกับเสียงลมพัดแผ่วๆ พร้อมกับความมืดในยามค่ำคืน คนแก่ที่ดูเป็นมิตรก็กลายเป็นเหมือนอสูรกายเลือดเย็นในทันที เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของชายชรานิรนาม (รับบทโดย Gerhard Bös) ซึ่งน่าจะเป็นวายร้ายหลักในเรื่อง มันทำให้คนที่ดูหนังผีมาเยอะอย่างผมรู้สึกกลัวได้จริงๆ

ฉากการฆ่าในเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดิบเถื่อน แต่คงไม่ถึงขั้นชวนอ้วกขนาดนั้น ผมจัดให้อยู่ในระดับกลางๆ พล็อตเรื่องสนุกและน่าสนใจ ซึ่งมีตัวละครหนึ่งที่ผมชอบมากๆ คือ Kim (รับบทโดย Anna Unterberger) แฟนใหม่ของ Lukas (รับบทโดย Stephan Luca) ผู้ซึ่งเป็นพ่อของลูก Ella แฟนใหม่คนนี้เป็นตัวละครที่มีมิติ มีความเก็บกด ริษยาอาฆาต ตามสไตล์ผู้หญิงคลั่งรัก Kim ดูเหมือนจะชั่วกว่าพวกฆาตกรวัยชราด้วยซ้ำในบางแง่มุม น่าเสียดายที่บทบาทของเธอมีน้อยเกินไป

ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะสนุกมากขึ้นหากตัวละครนี้มีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่ ตอนจบของหนังเหมือนจะปูทางสู่ภาคต่อ ซึ่งผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้น เพราะผมยังอยากติดตามสาเหตุที่แท้จริงว่าอะไรทำให้คนแก่ลุกจากวีลแชร์มาไล่ฆ่าลูกหลาน เป็นเพราะไวรัสหรือไสยศาสตร์ แต่หลักๆ หนังก็พยายามสื่อว่าที่คนแก่ฆ่าคนรุ่นใหม่เป็นเพราะพวกเขาโกรธแค้นที่ถูกละเลยจากสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในสังคมบางประเทศ ที่คนแก่จะถูกพาไปอยู่อย่างเหงาๆ ในบ้านพักคนชรา โดยที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากลูกหลาน ทั้งที่เขาเป็นผู้ที่ทำให้บุคคลเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาได้

จะบอกว่าเป็นหนังที่ดีก็ไม่เชิง เพราะต้องยอมรับตามตรงเลยว่าบางส่วนจากทั้งหมดยังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งในแง่ของตัวละครและการปูเรื่องราวสู่เหตุการณ์สำคัญ และผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสั่นกล้อง ในเมื่อมันไม่ใช่ลองเทคหรือเทคนิคถ่ายแบบมุมมองบุคคลที่สาม แต่ผมชอบคอนเซ็ปท์กับสิ่งที่พยายามจะสื่อ มันแปลกและเป็นเรื่องใกล้ตัว แนวคิดดี แต่ทำไม่ดีพอ ซึ่งอาจมีปัญหาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ต้นทุนการผลิตหรือระยะเวลาเตรียมการ หวังว่าจะได้เห็นภาคต่อของ เกิด แก่ กัน ตาย เร็วๆ นี้นะครับ