รีวิวหนัง The Black Phone มาถึงคิดหนัง สยองขวัญที่ย้อนยุคไปในยุค 70 อย่างหนัง The Black Phone Pantip งานนี้บอกเลยว่าแฟนหนังแนวสยองขวัญไม่ควรพลาด เพราะทั้งสนุก ลุ้นระทึกจนแทบทุกวินาที แฟนหนังสยองขวัญหลายๆคนคงชองหนังเรื่อง สายหลอนซ่อนวิญญาณ pantip อย่างแน่นอน งานนี้ถ้าใครไม่อยากพลาดชมหนังสุดสยองไปชมกันได้ที่ ดูThe BlackPhone กันได้เลยครับ

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง สกอตต์ เดอร์ริคสัน ที่เคยทำทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจสาวกมาร์เวลาอย่าง Doctor Strange หรือหนังไซไฟระทึกขวัญ The Day the Earth Stood Still แต่ถ้าจะพูดถึงกระบวนหนังแนวสยองขวัญก็ไล่กันไปตั้งแต่ Sinister, Deliver Us from Evil และ The Exorcism of Emily Rose เชื่อว่า หลายคนน่าจะเคยผ่านตามากันบ้างแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้น วันนี้ เรามาว่ากันด้วยหนังใหม่ที่เขาทั้งเขียนบททั้งกำกับเรื่องนี้กันเลยดีกว่า

The Black Phone เรื่องย่อชวนสยอง

หนัง the black phone เรื่องย่อ จะพาเราย้อนกลับไปนึกถึงวันเก่า เกี่ยวกับเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่ชื่อว่า ฟินนีย์ ชอว์ เด็กชายขี้อายแต่ชาญฉลาดวัย 13 ปี ที่มีชีวิตวัยเด็กอยู่ระหว่างบ้านกับโรงเรียน ในบ้านเขาอยู่กับพ่อที่ค่อนข้างขี้เหล้าและเข้มงวดเกินพอดี และน้องสาว เกว็น ที่มีความสามารถพิเศษเหมือนแม่คือ มักจะฝันเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงได้

วันหนึ่งเด็กชาย ฟินนีย์เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเขา เพราะเขาถูดจับตัวไปจากคนที่ได้รับฉายาจอมฉุด The Grabber ลักพาตัวเขาไปขังอยู่ในห้องใต้ดินเก็บเสียง ทำให้เขาไม่สามารถจะกรีดร้องใดๆ เพื่อให้คนมาช่วย แต่ในห้องนั้นมีโทรศัพท์เครื่องสีดำที่สายสัญญาณถูกตัดอยู่เครื่องหนึ่ง

แต่แล้วจู่ๆ โทรศัพท์ไร้สัญญาณเครื่องนั้นก็เริ่มส่งเสียงดัง ฟินนีย์จึงค้นพบว่า ตนสามารถพูดคุยกับเหยื่อคนก่อนๆ ของฆาตกรรายนี้ได้ ความพยายามหนีให้รอดจากฆาตรใจโฉดเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการใช้ความสามารถพิเศษของเกว็นเพื่อช่วยฟินนีย์พี่ชายของเธอ ตามไปลุ้นกันได้ที่ ดูThe BlackPhone นะครับ

รีวิวหนัง The Black Phone สายหลอนซ่อนวิญญาณชวนสยองขวัญ น่าดู

เปิดด้วยความสงสัยสู่การหลบหนี

โดยช่วยแรก หนัง the black phoneสปอย หนังทำให้เรานึกถึงบรรยากาศเก่าๆย้อนยุคไปในยุค70 โดยที่เราจะได้รู้เรื่องราวของเด็กสองคนนั้นคือ ฟินนีย์และเกว็น ที่อยู่ท่ามกลางผองเพื่อน ห้องเรียน และกีฬาเบสบอล

หนังจะให้เรารู้สึกสงสัยก่อนที่เราจะเริ่มเห็นการล่าเด็กของชายลึกลับที่มากับรถตู้คันสีดำ ด้านหลังบรรทุกลูกโป่งสีดำ จนวันหนึ่งฟินนีย์ก็กลับกลายเป็นเด็กผู้เคราะห์ร้ายเสียเอง และเมื่อเขาถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินนั้น เขาก็พบโทรศัพท์ที่ติดอยู่บนผนังนั้นมันก็เป็นเครื่องสีดำ

นับว่าเป็นความโชคร้ายของเด็กที่ต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้าย แม้ฟินนีย์จะถูกคนร้ายโรคจิตจับมาขังไว้ในห้องใต้ดินที่ไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ แต่เขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากสองทาง หนึ่งคือเสียงลึกลับในสายโทรศัพท์ที่ดังก้อง ทั้งที่สายของมันถูกตัดไป สองคือ เขามีเกว็น น้องสาวผู้มีพลังความฝันแม้เธอจะควบคุมมันไม่ได้

หนังมีกลิ่นอายขอความเป็นหนังในยุค 70’s แม้หนังจะใช้ภาพสีที่คมชัด แต่กลับไปย้อมให้มันดูเก่าลงมานิดหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ใช้ภาพแบบเกรนแตกเมื่ออยู่ในความฝันของเกว็น สองคือ มันเป็นหนังที่พล็อตมันคือหนังระทึกขวัญแต่แทรกเล่าเรื่องสยองขวัญไว้อยู่ข้างใน งานนี้ต้องไปลุ้นกันที่ รีวิวหนังแนวสยองขวัญ

รีวิวหนัง The Black Phone สายหลอนซ่อนวิญญาณชวนสยองขวัญ สนุก

ลุ้นไปกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังโดยไม่ต่อสาย

วิจารณ์ หนัง สายหลอน ซ่อนวิญญาณ คนที่ดูรับรองจะต้องรู้สึกลุ้นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มันดังได้ไงเป็นใครโทรมาเพราะมันไม่ได้ต่อสาย นอกจากจะบ่งบอกถึงปณิธานที่มีร่วมกันแล้ว ยังบ่งบอกความดิ้นรนไม่ยอมแพ้ของฟินนีย์ เด็กชายที่หนังปูไว้ตอนต้นว่าเขาช่างเกิดมาโชคดี

มีคนรอบข้างคอยโอบอุ้มช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เวลาโชคร้ายมาถูกกักขังไว้ ในบางเวลาหนังก็เล่นช็อตที่ชวนรู้สึกน่ากลัวขึ้นมา บางเวลาก็เล่นช็อตตุ้งแช่ให้สะดุ้งตกใจ ซึ่งก็ไม่ได้มากจนเฝือ แต่พอมาก็ทำให้สะดุ้งได้จริงๆ

หนังก็ไม่ได้พาเราให้ระทึกขวัญแต่เพียงอย่างเดียว เพราะระหว่างทาง เขาก็ใส่มุกขำๆ แทรกให้คนดูได้ยิ้มและหัวเราะคิกๆ เป็นระยะด้วย คาแรกเตอร์ของเกว็นคือน้องสาวที่มีความแกร่งและสีสันความขายขำผสมกันไป เมื่อพี่ชายถูกจับตัวไปและเธอมีพลังแห่งความฝัน เธอก็พยายามอ้อนวอนพระเจ้าขอให้ฝันอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์

หนังเล่ามาทุกอย่างเพื่อจัดหนักจัดเต็มในช่วงท้าย นายแพทชอบที่เขาทำตอนจบเอาไว้ได้น่าประทับใจ โดยรวม หนังอาจจะไม่ได้ระทึกมากตลอดเวลา มีแผ่วบ้าง มีแรงบ้าง ระคนกันไป แต่ชอบในการเล่าเรื่องที่เล่นกับงานภาพ และกรรมวิธีหลายหลากของการช่วยเหลือและเอาตัวรอดไปจากเงื้อมมือของตัวร้าย เสียงโทรศัพท์อาจเป็นเสียงประกอบที่ทรงพลังมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ ขณะที่เด็กสองตัวนำก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม สามารถไปชมเพิ่มได้ที่ รีวิวหนังแนวสยองขวัญน่าดู

The Black Phone เดินเรื่องน่าสนใจ

หนังThe Black Phone Major ด้วยความที่หนังให้เราได้ซึมซัพกับบรรยากาศเก่าๆของรัฐโคโลราโดยุค 70’s ซึ่งจริง ๆ ยุคนี้ถือเป็นยุคเรืองรองของคดีฆาตกรรม ลักพาตัว ฆาตกรต่อเนื่องเป็นทุนเดิม ตัวหนังก็เลยหยิบเอาบรรยากาศความกลัวและความหดหู่อดสูใจจากยุค 1970 มาสร้างบรรยากาศ

ปูเรื่องให้รู้ถึงบรรยากาศความสยองขวัญปนหดหู่ของคนที่อยู่ในล้อมรอบของเหตุการณ์ และก็เป็นแรงส่งให้เรารู้สึกถึงการเคารพวิธีการเล่าเรื่องแบบหนังสยองขวัญยุคเก่าไปด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะว่าไปก็มีความคล้ายกับการเซตบรรยากาศความสยองปนคัลต์ยุค 80’s ในซีรีส์ Stranger Things อยู่เหมือนกันนะครับ

ต่หนังก็ไม่ได้กระหน่ำใส่ฉากเลือดสาดมาแบบจัดหนักจัดเต็มสักเท่าไร หรือใส่ Jump Scare ตึ่งโป๊ะล่อให้สะดุ้งนะครับ ตรงกันข้าม ตัวหนังกลับเลือกเสื่ยงที่จะเล่าด้วยพล็อตลูกผสมระหว่างพล็อตหนังเชือดแบบสแลชเชอร์ หนังเอาตัวรอดในที่ปิด วิญญาณสิงสู่ และพล็อตแนว Supernatural หรือแนวเหนือธรรมชาติ ที่ชวนให้นึกถึงพล็อตสยองขวัญผสมเหนือธรรมชาติที่วางพล็อต ชง-ปู-เก็บกลับ สไตล์สตีเฟน คิง

ตัวหนังสามารถควบคุมโทนเรื่อง และพล็อตออกมาได้ค่อนข้างดีเลยล่ะครับ แม้ตัวหนังในองก์แรกจะทำให้รู้สึกว่าเดินเรื่องเนือย ๆ และมีอาการโดด ๆ ข้าม ๆ ไม่ยอมปูเรื่องบางเรื่องที่ควรจะปูไปบ้าง เพราะเน้นปูเรื่องของฟินนีย์ที่เป็นเด็กฉลาดแต่โดนรังแก โดนบูลลี่เป็นหลัก

แต่ก็ต้องชื่นชมว่า ตัวบทสามารถวางพล็อตเรื่องได้ฉลาดทั้งการวางพล็อต และค่อย ๆ วางจุดหักมุมของเรื่องเอาไว้ภายใต้การเล่าแบบนิ่ง ๆ เน้นฉากความรุนแรงที่จัดจ้านติดเรต R แต่ตัวหนังกลับพึ่งพา Jump Scare น้อยมาก แต่สามารถเล่าเรื่องได้หดหู่ น่ากลัวได้ชวนสะดุ้งเกือบทุกดอก งานนี้จะสยองแค่ไหนไปดูกันได้ที่ รีวิวหนังแนวสยองขวัญน่าสนใจ

สยองแถมมีมุกตลกมาให้คายความกลัว

ดูหนัง the black phone2022 สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ตัวหนังเองใส่ความสนุกให้ผู้ชมรู้ถึงความฉลาดของเด็กชายที่ต้องการดิ้นรนเอาตัวรอดจากห้องใต้ดินที่ปิดตาย และความโรคจิตของฆาตกรหน้ากากปีศาจ พร้อม ๆ ไปกับเส้นเรื่องของตัวละครที่มีความ เหนือธรรมชาติ เป็นคนคอยเบิกทางเบาะแสจากภายนอกไปด้วย

ก็เลยยิ่งทำให้ชวนให้เอาใจช่วยทั้งคู่ไปด้วย งานนี้เลยทำให้เราได้ลุ้นระทึก ปนกับความคิดที่สร้างสรรค์มาก แอบติดตลกร้ายชวนไหล่สั่น มีสารบางอย่างให้คิดต่อ ก่อนจะปิดจ็อบด้วยฉากโหดสะใจแบบสุดเขตเรต R ทำให้หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังสยองขวัญ-ทริลเลอร์ที่ครบรสแบบไม่มีอะไรค้างคาจริง ๆ ครับ

โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ คือหนังผี-ทริลเลอร์-เอาตัวรอด ผสม Supernatural ในแบบฉบับของ สตีเฟน คิง ที่สามารถสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอึดอัด วางพล็อตหักมุมได้ชวนสะดุ้ง ขับเคลื่อนเรื่องด้วยความฉลาด ท้าทาย เป็นเหตุเป็นผล น่าเอาใจช่วย ปูและเก็บกลับได้ดี

แถมยังใส่มุกตลกเข้ามาบ้างเล็กน้อยเพื่อแก้ความสยอง นี่อาจไม่ใช่หนังที่ถูกใจคอหนังสยองขวัญสายคลุ้งคาวเลือด สยองขวัญแบบตู้ม ๆ แต่เป็นหนังลุ้นระทึกที่ได้บรรยากาศลุ้นบวกสยองที่เหมาะกับการดูในโรงหนังเพื่อให้ได้อรรถรสอย่างเต็มที่ รับรองว่าดูจบแล้วน่าจะหลอนเสียงโทรศัพท์​ไปอีกนาน…

ชื่อภาพยนตร์The Black Phone / สายหลอน ซ่อนวิญญาณ
กำกับ Scott Derrickson/สก็อต เดอร์ริคสัน
เขียนบท Scott Derrickson, C. Robert Cargill, Joe Hill
แสดงนำ Ethan Hawke/อีธาน ฮอว์ก, Mason Thames/เมสัน เธมส์, Madeleine McGraw, James Ransone, Jeremy Davies, Rebecca Clarke
แนว/ประเภท Thriller, Horror
เรท R
ความยาว 103 นาที
ปี 2021
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย 13 กรกฎาคม 2022
ผลิต/จัดจำหน่าย Universal Pictures, Blumhouse Productions, Crooked Highway